จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
องค์กรที่ออกโรงมาปกป้องป่าไม้ เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ก็คือกลุ่ม Greenpeace ด้วยความเชื่อว่าหากปราศจากป่าไม้ที่แข็งแรง โลกของเราไม่สามารถจะมีชีวิตยั่งยืน (Sustain life) ปัจจุบันป่าไม้เผชิญหน้ากับภัยคุกคามหนักจากน้ำมือของมนุษย์เองมากกว่าภัย คุกคามอื่นใด จนกว่า 80% ของพื้นที่ป่าไม้โลกได้ถูกทำลายหรือเสื่อมสภาพแล้ว
ในปีนี้ กลุ่ม Greenpeace และมนุษย์ส่วนหนึ่งคงพยายามออกมาต่อสู้เพื่อดึงเอาสภาพอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ กลับมาอีกครั้ง ทั้งนี้ กำหนดวันที่ 21 มีนาคมของทุกปีเป็น International Day of Forests นอกจากแสดงถึงการให้ความสำคัญกับป่าไม้ในลำดับสูงมาก ยังแสดงให้เห็นพลังขับเคลื่อนของการดำเนินกิจกรรม ความร่วมมือร่วมใจกันดูแลป่าไม้ในเชิงความมั่นคง ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงบอกว่าชอบ หรือรักต้นไม้
ปีนี้ กลุ่ม Greenpeace ระบุ 8 พื้นที่ป่าไม้ในโลกเป็นเป้าหมายหลักที่จะต้องปกป้องไว้ให้ได้
พื้นที่ป่าไม้ที่ 1 ป่าฝนและป่าพรุในอินโดนีเซีย
จุดแรกนี้เป็นเป้าหมายหลัก เพราะกว่า 1 ใน 4 ของป่าไม้ของอินโดนีเซียสูญเสียไปในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา เพราะถูกนำไปแปรสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์กระดาษและน้ำมันปาล์ม แถมพ่วงด้วยไฟป่าและหมอกควันที่กระจายออกไปในประเทศใกล้เคียงหลายประเทศรวม ทั้งไทยด้วย จนกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์และสัตว์ป่ามากมายพร้อมเพิ่ม ปริมาณคาร์บอนให้แก่บรรยากาศโลกมากที่สุด
ตอนนี้มีกลุ่มผู้บริโภครวมตัวกันเรียกร้องให้แบรนด์ชั้นนำของโลกที่ ใช้ผลิตภัณฑ์กระดาษและน้ำมันปาล์มจากผืนป่าแห่งนี้หยุดทำลายป่าไม้หลักของ โลก
พื้นที่ป่าไม้ที่ 2 ป่าฝน Great Bear ในแคนาดา
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีการเฉลิมฉลองโอกาสที่กลุ่มรณรงค์ประสบความสำเร็จในการปกป้องป่าฝน Great Bearในแคนาดาที่เป็นพื้นที่ใหญ่ที่สุดของป่าฝนที่ยังหลงเหลืออยู่ในโลก
ป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์กลายเป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมป่าไม้ จนเกิดการริเริ่มแคมเปญในต้นทศวรรษ 1990 ซึ่งขณะนั้น ศักยภาพการปกป้องป่าฝนมีไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ จนสามารถรักษาได้ถึง 85% ที่ดึงออกมานอกผลประโยชน์ของภาคอุตสาหกรรมได้แล้ว
ความสำเร็จครั้งนี้มาจากกลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อม รัฐบาล คนพื้นเมืองตลอดจนบริษัทประกอบธุรกิจป่าไม้เองที่ร่วมมือร่วมใจกันอย่างแข็ง ขัน น่าจะได้รับการยกย่องเป็นบทเรียนและประสบการณ์ที่แบ่งปันเพื่อเรียนรู้
พื้นที่ป่าไม้ที่ 3 ป่าฝนในอเมซอน บราซิล
อเมซอนเป็นป่าที่มีความสำคัญต่อโลก เพราะเป็นแหล่งอนุรักษ์พืชหายากและสัตว์ในสปีชีที่หายากที่เหลืออยู่ไม่มาก ในโลก และเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้สังคมในชุมชนสามารถคงอยู่ได้ต่อไป
ด้วยเหตุผลนี้ บราซิลและนักรณรงค์ทั้งหลายจึงออกมารณรงค์หาทางเลือกอื่นมาทดแทนการบุกรุก ถางป่า ปลูกหญ้าให้สัตว์เลี้ยงแทะเล็ม เพราะผลเสียสูงมากและเกิดผลได้ไม่คุ้มค่ากัน รวมทั้งมีความพยายามจะกดดันให้ซุปเปอร์มาร์เกต เลิกสนับสนุนการซื้อเนื้อสัตว์ที่มาจากการทำลายสภาพของป่าฝนอเมซอน
พื้นที่ป่าไม้ที่ 4 ป่าไม้ที่มีชื่อเสียงใน Tasmania ในออสเตรเลีย
พื้นที่แห่งนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลก เกิดไฟป่าลุกลามครั้งใหญ่อย่างไม่เคยเกิดมาก่อน จนทำลายสภาพป่าไม้ที่มีชื่อเสียงด้านความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะเกิดขึ้นกับต้นไม้ที่มีอายุยาวนานติดต่อกันมากว่าพันปี
เมื่อปี 2015 ป่าไม้ Tasmania เกิดภาวะแห้งแล้งและภัยแล้งด้วยอุณหภูมิสูงสุดอย่างไม่เคยเกิดมาก่อนเมื่อเดือนธันวาคม
พื้นที่ป่าไม้ที่ 5 ลุ่มน้ำที่ Tapajos ที่อยู่ใจกลางป่าฝนอเมซอน บราซิล
เป็นพื้นที่ป่าไม้อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างเสี่ยงภัยสูงและประสบ ภัยคุกคามมากขึ้น จนบราซิลและกลุ่มรณรงค์หันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง ภายหลังจากกลุ่มกรีนพีชร่วมกับคนพื้นเมืองออกมารณรงค์เพื่อปกป้องผืนป่าแห่ง นี้
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลบราซิลได้ออกนโยบายที่จะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่เพื่อสร้างแหล่งสำรองน้ำ ในบริเวณนี้ ซึ่งทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในพื้นที่ของ Munduruku ถูกกระทบ และเสี่ยงต่อการสูญเสียดุลยภาพของระบบนิเวศในบริเวณนั้น
พื้นที่ป่าไม้ที่ 6 ป่าไม้ที่เป็นที่อยู่ของหมีแพนด้าที่ใหญ่สุดในโลกในจีน
เป็นพื้นที่ป่าไม้อีกแห่งที่กลุ่มกรีนพีชออกมารณรงค์ปกป้อง จากการสำรวจพบความเสี่ยงที่มีการบุกรุกทำลายไม้เพื่อใช้เชิงพาณิชย์ผิด กฎหมาย ในป่าที่เป็นที่อยู่ของหมีแพนด้าตามธรรมชาติ
การรณรงค์และการประโคมข่าวของกรีนพีช ทำให้รัฐบาลจีนต้องออกโรงชี้แจง พร้อมออกมาตรการปกป้องป่าที่เป็นที่อยู่ของหมีแพนด้าแห่งนี้มิให้ใช้เพื่อ การพาณิชย์ทั้งผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย
พื้นที่ป่าไม้ที่ 7 Calilegua National Park ในอาร์เจนตินา
พื้นที่ป่านี้เป็นที่รวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่ง ของโลก และเป็นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของนกนานาชนิดกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรนก ทั้งประเทศ และแหล่งอาศัยของหมีจากัวร์
ความเสี่ยงและภัยคุกคามจากการเปิดอนุญาตให้ใช้เป็นพื้นที่ขุดน้ำมัน ได้ จนมีคนกว่า 270,000 คนลุกฮือออกมาต่อต้าน จนรัฐบาลต้องระงับแผนดังกล่าว
พื้นที่ป่าไม้ที่ 8 ป่าฝน Congo Basin
ป่าไม้แห่งนี้เป็นป่าฝนขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองลงมาจากป่าอเมซอน จึงมีสัตว์หายาก และความหลากหลายทางชีวภาพสูง จึงเป็นอันตรายจากการที่รัฐบาลคองโกยอมให้สัมปทานการทำป่าไม้โดยไม่ให้ความ สนใจกับความสูญเสียทางชีวภาพดังกล่าว
นอกเหนือจาก 8 ป่าไม้สำคัญของโลก ที่เป็นที่สนใจเพราะมีผู้นำอย่างกลุ่มกรีนพีชและคนพื้นที่ร่วมต่อสู้แล้ว ทั่วโลกยังมีป่าไม้อีกนับพันแห่งที่ต้องการความร่วมมืออย่างต่อเนื่องเพื่อ ปกป้อง และอยู่ในบริเวณต่างๆ ทั่วโลก
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต