จาก คมชัดลึกออนไลน์
คมชัดลึก :การผลิตน้ำหอมจากกล้วยไม้สกุลวานิลลา
เธอที่รักทั้งหลาย ถ้าไม่เพียงแต่เป็นผู้บริโภคทุกสิ่งทุกอย่างภายในสังคมโดยไม่สนใจที่จะคิดว่ามันคืออะไรและมาจากไหน ความเป็นผู้เป็นคนของตัวเธอเองมันก็ย่อมไม่สูญหาย แล้วในที่สุดเธอก็คงไม่ต้องบริโภคยาพิษเข้าไปทำร้ายร่างกายของตัวเธอเอง
ทั้งนี้ หลักพุทธธรรมได้สอนเอาไว้ว่า “จงเป็นผู้ตื่นอยู่เสมอ” ซึ่งหมายถึงมีรากฐานจิตใจที่อิสระ ช่วยให้สามารถยืนหยัดอยู่บนลำแข้งของตัวเองภายในกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้อย่างสง่างามอีกทั้งยังเป็นผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถึงความจริง
ความจริงแล้วอย่างที่ฉันได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า “วานิลลาคือกลิ่นของกล้วยไม้สกุลหนึ่ง”
ทว่า รูปลักษณะของกล้วยไม้สกุลนี้มีภาพรวมที่เป็นเถา เลื้อยขึ้นไปเกาะอยู่ตามกิ่งไม้ หรือต้นไม้ภายในธรรมชาติ กระทั่งถึงกำหนดให้ดอกปรากฏออกมาเป็นช่อ ผู้ปลูกที่ปลูกเป็นอุตสาหกรรมก็จะทำการผสมเกสร เพราะธรรมชาติของกล้วยไม้โดยทั่วไปรวมทั้งกล้วยไม้ในสกุลวานิลลา มีเพศผู้และเพศเมียอยู่ในดอกเดียวกัน แต่มีฝากั้นห้องเพื่อให้อยู่กันคนละห้อง ดังนั้นการผสมเกสรจึงต้องใช้สัตว์เป็นผู้ผสม
คนก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง เมื่อต้องการนำมาใช้ประโยชน์ก็ควรจะช่วยมันผสมเกสรด้วย แทนที่จะอยู่อย่างเอารัดเอาเปรียบชีวิตอื่น แม้กระทั่งกล้วยไม้ก็เช่นกัน
หลังจากการผสมจนกระทั่งติดฝักแล้ว คงรอให้ฝักแก่ภายในสภาพแวดล้อมธรรมชาติและกาลเวลา หลังจากนั้นจึงนำฝักที่สุกแล้วหรือแก่สนิทแล้วมาผึ่งแดดเอาไว้ให้แห้งสนิท ถัดจากนั้นมาจึงนำมาหมักให้ได้ที่ เสร็จแล้วจึงนำมากลั่นเพื่อต้องการน้ำหอมตามที่ปรารถนา
ฟังดูแล้วมันก็เหมือนว่าเป็นเรื่องง่าย แต่แท้จริงแล้วก็มีบางส่วนซึ่งทำได้ยากจนกระทั่งเกิดปัญหาระหว่างการผลิตกับการใช้ประโยชน์เป็นการค้า
เหตุใดฉันจึงบอกว่า มีปัญหาที่แก้ยาก ทั้งนี้ก็เพราะเหตุว่า ตลาดโลกมีความต้องการน้ำหอมวานิลลาค่อนข้างสูง แต่การผลิตกลับลดน้อยลง
มันเกิดอะไรขึ้นภายในระบบการผลิตการค้าดังกล่าว ฉันจะบอกให้ก็ได้ว่าการผลิตกล้วยไม้สกุลนี้เป็นอุตสาหกรรม ค่าใช้จ่ายในการผลิตมันสูงลิบลิ่ว แต่ผลที่ได้รับกลับไม่มากเท่าที่ควร ไหนจะต้องเสียเวลาในการผลิต แม้ตลาดโลกจะต้องการมาก แต่มันก็เหมือนลูกผีลูกคนที่ซ่อนอยู่ในกระบวนการผลิตและการค้า
ฉันจึงพูดมานานแล้วว่า ถ้าจะผลิตกล้วยไม้สกุลวานิลลาเป็นอุตสาหกรรม หากผลิตเป็นส่วนเสริมพืชผลอื่นๆ มันก็น่าสนใจ แต่ถ้าจะผลิตเป็นพืชหลักมันก็คงจะยาก
"ระพี สาคริก"