จาก คมชัดลึกออนไลน์
คมชัดลึก :ลักษณะ โดยทั่วไป ตอนนี้มาดูกันว่า ลักษณะโดยทั่วไปของกล้วยไม้สกุลวานิลลานั้นเป็นอย่างไร บอกได้เลยว่าเป็นกล้วยไม้ที่มีทรงต้นเป็นเถาเลื้อยขึ้นบนต้นไม้ หรือไม่ก็นำมาปลูกให้มันเลื้อยเกาะหลักหรือราวที่เราทำให้มันเกาะ
ขณะเดียวกัน ในส่วนของลำต้นจะมีลักษณะเป็นข้อเป็นปล้อง และในแต่ละข้อก็จะมีราก เพื่อใช้สำหรับยึดเกาะสิ่งที่เป็นหลักรวมทั้งใช้หาอาหารไปพร้อมกันด้วย
นอกจากนั้น ตรงส่วนที่เป็นข้อ ยังมีก้านใบซึ่งมีใบอยู่บริเวณตรงปลาย ส่วนใหญ่จะมีใบกว้าง ยาว หนา และอวบน้ำ (Fleshy) บางชนิดก็มีใบขนาดเล็กมากจนกระทั่งมองแทบไม้เห็น ดังเช่น พันธุ์วานิลลาที่เรียกกันว่า “เถางูเขียว” ซึ่งมีในธรรมชาติของประเทศไทย
จะเห็นได้ว่า โดยปกติแล้วถ้าเป็นพืชทั่วๆไป ใบจะมีสีเขียวเพื่อทำหน้าที่สังเคราะห์แสงและปรุงอาหารให้แก่ต้นไม้ แต่ในกรณีของกล้วยไม้สกุล วานิลลา นอกจากใบซึ่งมีสีเขียวแล้ว ส่วนที่เป็นลำต้นก็ยังมีสีเขียวด้วย ทั้งนี้ เพื่อทำหน้าที่ช่วยใบสังเคราะห์แสงและปรุงอาหารให้แก่ต้นไม้ด้วยเช่นกัน
เพราะฉะนั้นเจ้า "เถางูเขียว" ซึ่งมีใบขนาดเล็กมากจึงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ทั้งนี้ เพราะมีลำต้นทำหน้าที่แทนใบด้วยนั่นเอง
ส่วนช่อดอก จะงอกออกมาจากตาดอกซึ่งอยู่ส่วนเหนือของข้อบนลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร มีดอกออกตรงปลายช่อเป็นกลุ่ม ช่อละหลายดอก ขนาดของดอกจัดอยู่ในประเภทค่อนข้างกว้าง กลีบนอกของดอกทั้ง 3 กลีบมีลักษณะอิสระ ส่วนกลีบในก็มีอิสระด้วยและมีความยาวประมาณเท่าๆ กัน รวมทั้งมีความหนาทำให้มีความแข็งแรง อีกทั้งกระดูกที่อยู่ตรงกลางกลีบดอกจะมองเห็นได้ชัด
กล้วยไม้ใน สกุลนี้ ที่เข้ามามีบทบาททางอุตสาหกรรมเพื่อทำเป็นการค้าในประเทศเขตร้อนของโลกบาง ประเทศ ส่วนใหญ่ได้แก่ วานิลลา แพลนนิฟอเลีย ซึ่งมาจากประเทศเม็กซิโก
ต่อมาภายหลังได้มีคนค้นพบวานิลลาอีกหลายชนิด ซึ่งส่วนใหญ่นำมาปลูกเป็นอุตสาหกรรมกันในประเทศที่อยู่ตอนใต้ของทวีปอเมริกา รวมทั้งหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก และแอตแลนติก
อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของกล้วยไม้ชนิด นี้ในแถบที่กล่าว จะมีฝักค่อนข้างใหญ่ และเมื่อฝักหรือผลสุก ก็จะมีรสหวานมากกว่าชนิดที่พบในแหล่งอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถนำมาปลูกให้ได้ผลในแหลมมลายูได้ง่ายกว่าด้วย
"ระพี สาคริก"
