จาก คมชัดลึกออนไลน์
คมชัดลึก :นี่ แหละ มันถึงได้ทำให้ตัวฉันรู้เรื่องราวของกล้วยไม้สกุลวานิลลาได้อย่างลึกซึ้งมา ตั้งแต่ช่วงนั้น แล้วมันก็ลงไปฝังอยู่ในความทรงจำของฉันมาตลอด
วานิลลา เป็นชื่อสกุลของกล้วยไม้สกุลหนึ่งซึ่งมีธรรมชาติอยู่ในเขตร้อนของโลก
ปกติแล้วกล้วยไม้ในเขตร้อนภายในภาพรวมของโลกนั้น มีการแบ่งแยกแหล่งกำเนิดเป็น 2 ส่วน
ส่วน หนึ่งในเขตหนึ่งทวีปอเมริกาตอนใต้ กับอีกส่วนอยู่ในทวีปเอเชีย รวมทั้งดินแดนภายในมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งอยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตรของโลก
สำหรับกล้วยไม้สกุลวานิลลามีแหล่งกำเนิดมาจากทั้ง 2 เขต ดังที่มีหลักฐานระบุไว้ว่า ในประเทศเม็กซิโกทวีปอเมริกาตอนใต้ ได้มีการปลูกกล้วยไม้สกุลวานิลลาชนิดที่มีชื่อว่า วานิลลา แพลนนิฟอเลีย (Vanilla planifolia) เพื่อนำมาผลิตน้ำหอมป้อนสู่
ส่วนประเทศไทย อย่านึกว่าไม่มีกล้วยไม้สกุลวานิลลานี้อยู่ในธรรมชาติ ความจริงแล้วอย่างน้อยก็มีกล้วยไม้ชนิด หนึ่งมีชื่อภาษาไทยว่า “เถางูเขียว” ชื่อพฤกษศาสตร์ Vanilla aphylla อยู่ในธรรมชาติ ดังที่มีชาวบ้านเก็บมาขายที่ตลาดนัดต้นไม้ในวันหยุด
ฮอลตั้ม (Holttum) เป็นนักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษ ที่เข้ามาประจำทำงานค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์ไม้เขตร้อนในทวีปเอเชีย และได้เข้ามาประจำอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์ที่สิงคโปร์หลายสิบปี กระทั่ง พ.ศ.2521 ขณะที่ประเทศไทยได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมกล้วยไม้โลก ครั้งที่ 9 ฉันได้พิจารณาตัดสินใจให้มีการมอบรางวัลเกียรติยศ (Gold Medal Award) ให้แก่นักวิชาการผู้นี้ในขณะที่มีอายุ 98 ปีแล้ว ซึ่งการกระทำของฉันครั้งนั้น ได้รับความชื่นชมยินดีจากนานาชาติอย่างกว้างขวาง
นอกจากนั้น ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกมาครอบครองเมืองไทยเพื่อบุกไปตีสิงคโปร์ ญี่ปุ่นได้จับฝรั่งทั้งหมดไว้เป็นเชลยศึกแต่ทหารญี่ปุ่นยกเว้นไม่จับ ฮอลตั้ม เพราะนักวิชาการผู้นี้มุ่งมั่นทำงานด้านพฤกษศาสตร์พันธุ์ไม้ จนทำให้ทหารญี่ปุ่นเชื่อมั่นได้ว่าไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่การทำสงครามครั้ง นั้น
ในหนังสือซึ่งท่านผู้นี้เขียนเรื่องกล้วยไม้บนพื้นฐานพฤกษศาสตร์ ได้จัดจำแนกกล้วยไม้สกุลวานิลลาที่พบในภูมิภาคเอเชียเขตร้อนเอาไว้หลายชนิด และยังได้กล่าวว่า กล้วยไม้สกุลนี้เท่าที่ปรากฏอยู่ในธรรมชาติของโลก มีถึง 65 ชนิด
อนึ่ง ยังได้มีการกล่าวย้ำถึงความสำคัญของกล้วยไม้สกุลวานิลลาในชนิดที่เรียกชื่อว่า วานิลลา แพลนนิฟอเลีย (Vanilla planifolia) เอาไว้อย่างเด่นชัด
"ระพี สาคริก"