จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
| นอกจากเป็นแหล่งของแร่ธาตุสารอาหารที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับร่างกาย “อาหารทะเล” ยังเป็นอาหารที่โอชะถูกปากอันดับต้นๆ แทบทุกชนิด ทำให้กลายเป็นอาหารจานโปรดของใครๆ ในแต่ละวันแทบทั่งปี ทว่าในช่วงฤดูร้อนนี้อาหารทะเลสดมักเน่าเสียได้ง่าย และเสี่ยงต่อการปนเปื้อนอหิวาต์เทียม (Vibrio parahaemolyticus) ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ โรคอุจาระร่วง ทำให้ผู้ประกอบการหาวิธีการต่างๆ เพื่อเก็บรักษาและขยายเวลาจำหน่ายออกไปให้นานขึ้น ด้วยการแชร์สารฟอร์มาลีน ที่ก่อให้เกิดพิษต่อระบบทางเดินอาหารกระทั่งเสียชีวิตได้ วันนี้เราจึงหยิบแนะวิธีการการเลือกรับประทานอาหารทะเลที่สะอาด ปลอดภัย มาฝากเป็นแนวทางในการดูแลรักษาร่างกายในฤดูนี้ |
|||
อันดับแรกให้ดูจากสภาพของร้านค้าที่จัดจำหน่ายควรมีป้ายมาตรฐานร้านอาหารสะอาด รสชาติอร่อย ส่วนการคัดเลือกปลานอกจากปลาต้องเลือกเนื้อปลาที่เนื้อแน่น กดไม่บุ๋ม ไม่มีกลิ่นคาว ตัวเกล็ดปลาต้องห้ามมีรอยแยก รอยแตก เพราะอาจทำให้มีเชื้อโรคปนเปื้อนซึมอยู่ในเนื้อปลา ตาปลา เปิดโตเต็มที่ ใส ไม่ลึกโบ๋หรือขุ่นเป็นสีเทา แห้ง ตาไม่โบ๋ เหงือก ต้องสีแดงสด ไม่เขียวคล้ำครีบปิดสนิท ถ้ามีเมือกก็ต้องเป็นเมือกใส ถ้านำปลาไปแช่น้ำต้องจมน้ำถึงจะดี |
|||
ฝาหรือเปลือกจะต้องปิดสนิท ไม่ควรมีสิ่งสกปรกหรือเมือกมากเกินไป ถ้านำไปแช่น้ำหอยที่ดีจะจมน้ำ นอกจากนี้เมื่อแกะเปลือกแล้วเนื้อจะต้องมีสีแดงสดไม่ซีด เคลื่อนไหวได้เมื่อถูกแตะต้อง ที่สำคัญต้องไม่ควรมีกลิ่นเหม็น |
|||
ตาต้องใส ไม่ขุ่น เห็นตาดำด้านในได้อย่างชัดเจน หัวและลำตัวของต้องติดกันแน่น ไม่หลุดลุ่ยดึงออกจากกันได้ยาก เนื้อปลาหมึกต้องแน่น ไม่เละ กดดูแล้วต้องคืนตัวได้ทันที หนวดปลาหมึกควรมีสภาพสมบูรณ์ แข็งและไม่เปื่อยยุ่ย มีกลิ่นคาวปานกลาง ถุงน้ำหมึกต้องอยู่สภาพสมบูรณ์ ไม่แตกหรือฉีกขาด ทั้งนี้ไม่ควรซื้อปลาหมึกที่ลอกเยื้อนี้ออกแล้ว ถุงน้ำหมึกต้องอยู่สภาพสมบูรณ์ ไม่แตกหรือฉีกขาด |
|||
ตาปูต้องใส เลือกตัวที่มีน้ำหนักมาก เพราะปกติปูจะมีน้ำอยู่ในตัวมาก เมื่อถูกจับขึ้นมาน้ำจะระเหยออกไปตลอดเวลา ดังนั้นยิ่งวางขายนานเท่าไหร่ น้ำหนักก็ยิ่งเบาลงจึงให้เลือกปูที่หนักๆ ไว้ก่อน เนื้อต้องแน่น และไม่ดูเหี่ยวเฉา ควรให้พลิกหงายท้องปูดู ถ้ามีสีเหลืองอ่อนหรือมีคราบอยู่ตามร่องระหว่างปล้อง แสดงว่าเป็นเปลือกเก่าของปูที่ผ่านการลอกคราบมานานแล้ว บ่งบอกว่าเป็นปูเนื้อแน่น ที่สำคัญคือยังไม่ตาย |
|||
ลำตัวและส่วนหัวของกุ้งต้องใส เนื้อจะต้องแน่น ส่วนหัว ลำตัวและหางจะต้องติดกัน เพราะกุ้งที่ไม่สด หัวหรือส่วนที่เป็นเปลือกส่วนหัวจะไม่ติดกับตัว เปลือกกุ้งเป็นเงางามและขั้นสุดท้ายกุ้งสดต้องมีกลิ่นคาว ทั้งนี้ทั้งนั้นในช่วงฤดูนี้ควรปรุงให้สุกทุกครั้งและ ไม่ควรใช้เขียงร่วมกันระหว่างอาหารสุกและอาหารดิบ หลังปรุงอาหารเสร็จต้องทำความสะอาดภาชนะทันที เพื่อป้องกันกลิ่นคาวและมีแมลงวันตอม ภาชนะสำหรับใส่อาหารต้องสะอาดมีฝาปิดให้มิดชิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและแพร่กระจายของเชื้อโรคอีกด้วย |
eosgear,ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
