จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ ฟรีสไตล์เรื่องบ้านๆ
โดย เมตตา ทับทิม misstubtim@yahoo.com
ที่มา นสพ.มติชนรายวัน
เจ้าของบ้านมือใหม่หัดขับ สอบถามเข้ามามากเกี่ยวกับเทคนิคการตรวจรับมอบบ้าน
ก็แหม ช่วงนี้รัฐบาลทั่นใจดี ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ยกเว้นค่าโอนและจดจำนอง จากล้านละ 3 หมื่นเหลือล้านละ 300 บาท ทราบมาว่าโอนคึกคักกันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้น มีเวลาไม่มากนัก เพราะมาตรการจะหมดอายุภายใน 28 เมษายน 2559
สำหรับ การตรวจรับมอบบ้าน ไม่ว่าจะซื้อบ้านในโครงการจัดสรรหรือจ้างบริษัทปลูกสร้างบ้านให้บนที่ดินของ ตัวเอง วันนี้จะรีวิวเทคนิคการตรวจรับที่เป็นข้อมูลของ 3 สมาคมอสังหาฯ (สมาคมคอนโดฯ สมาคมบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย) ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
สรุปสาระสำคัญ เคล็ดลับมีเพียงตรวจภายใน-ตรวจภายนอก
เริ่มจาก "ตรวจสอบภายในอาคาร" มีประมาณ 10-11 จุด ดังนี้ "ประตู-หน้าต่าง" ตรวจดูบานพับ-กลอน-มือจับ-ลูกบิดทำงานได้ดีหรือไม่ สะอาดหรือเปล่า
"งานพื้นผิวชั้นล่าง" (กรณีบ้าน 2 ชั้น) พื้นห้องน้ำมีความลาดชันไหม เวลาอาบน้ำจะได้ไม่ท่วมเอ่อแต่ควรจะไหลลงรังผึ้งหรือท่อระบายน้ำ ตรวจความเรียบร้อยการปูกระเบื้อง เซรามิก หรือหินอ่อน
"งานพื้นผิว ชั้นบน" ตรวจเช่นเดียวกับชั้นล่าง กรณีขอเปลี่ยนสเปกวัสดุมาตรฐานก็ให้ตรวจดูความเรียบร้อยของงาน มีเศษปูนติดค้างหรือไม่ อย่าลืมดูเป็นพิเศษถ้าเป็นพื้นปาร์เกต์ เพราะฝีมือติดตั้งเป็นเรื่องสำคัญ มีการขัดแว็กลงเงาก่อนส่งมอบด้วยล่ะ
"ประปา-ท่อ ระบายน้ำ" ตรวจไม่ให้รูระบายน้ำอุดตัน ก๊อกน้ำใช้งานได้ราบรื่น น้ำไหลอ่อนหรือแรง "สุขภัณฑ์" สิ่งที่ต้องดูเป็นหลักคือเรื่องการติดตั้ง อาทิ ระบบชักโครกทำงานสมบูรณ์หรือเปล่า ฝาชักโครกมั่นคงแข็งแรง ที่สำคัญ เรื่องกลิ่นตุ ตุอย่าให้มีเชียว
"ไฟฟ้า" นอกจากดูความสะอาดเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเน้นความเรียบร้อยของตู้ควบคุมแผงไฟ กำชับให้เขียนกำกับว่าปลั๊กไหนส่งไฟอุปกรณ์อะไร ตู้เย็น แอร์ ฯลฯ สำคัญสุดอีกเรื่องคือสายดินใช้งานได้หรือไม่
"ฝ้าเพดาน" ตรวจดูถ้ามีรอยเปื้อน หรือเป็นคลื่นตามรอยต่อ ติดตั้งไม่เรียบร้อย อย่ามองข้ามและให้แก้ไขก่อนรับโอน
"งานทาสีผนัง-ผนัง" แน่นอนว่าต้องตรวจดูผนังบัวมีการคดงอหรือไม่ ทาสีเรียบร้อยหรือเปล่า ผนังปูนฉาบเรียบ, เป็นคลื่น หรือมีรอยแตกร้าว ส่วน "วอลล์เปเปอร์-มุ้งลวด-บันได" ดูให้งานเรียบร้อย แข็งแรง กรณีบันไดไม้เพิ่มความใส่ใจดูว่ามีเสี้ยนหรือเปล่า จะได้ไม่บาดเจ็บภายหลัง
จากนั้นมา "ตรวจรับมอบภายนอกอาคาร" มีอีก 7 จุดหลัก เริ่มจาก "รั้ว-ประตูรั้ว-ป้ายบ้านเลขที่" กรณีเป็นบ้านเดี่ยวไซซ์กลางถึงใหญ่จะมีถังขยะติดรั้วบ้านมาให้ด้วย
ดูการใช้งานได้สะดวกก็โอเคแล้ว "ทางเท้าหน้าบ้าน-สวนในบ้าน" ตรวจสนามมีการปรับพื้นเรียบหรือไม่เรียบ ดูให้แน่ใจว่าพื้นหน้าบ้านต้องสูงกว่าถนนหน้าบ้าน เวลาฝนตกหรือรดน้ำจะได้ไม่ท่วมขังในบ้าน
"โรงจอดรถ" ตรวจสอบว่ามีเศษปูนติดผิวคอนกรีตไหม พื้นทำเป็นลาดชัน (สโลป) หรือเปล่า "บ่อพัก-ท่อระบายน้ำ-บ่อดักไขมัน-ถังไบโอโทล" อย่าให้มีเศษขยะ เศษวัสดุในไซต์ก่อสร้างหลงเหลือ ตรวจลึกไปถึงก้นบ่อ-ปากท่อ-ปากบ่อ เก็บงานปูนให้เรียบร้อย
จุดสำคัญคือขอบบ่อได้ระดับและมีฝาปิดมิดชิด
อีก 2 รายการคือ "กระเบื้องหลังคา" ดูว่าแตกบิ่นหรือไม่ ครอบข้างปูชนผนังหรือเปล่า บริเวณปีก คสล. คลุมกระเบื้องไม่ถึงปลายต้องแก้ไขทันที เพราะอยู่อาศัยไปแล้วซ่อมหลังคาเป็นเรื่องใหญ่มาก
สุดท้าย "ผนังภายนอกอาคาร" คุณภาพงานที่ดีตรวจดูผนังได้ฉาก ไม่มีรอยร้าวลึกของผนัง ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นเรื่องบัวปูนติดตั้งไม่ได้สโลป ก่อนจะจบการตรวจเรื่องสีทาผนังทำได้เนี้ยบตรงใจไหม
ทั้งนี้ทั้งนั้น คู่มือการตรวจของ 3 สมาคมอสังหาฯ ถือเป็นเพียงแนวทาง เพราะจุดสำคัญอยู่ที่ "โครงสร้างหลัก" อย่างเสา คาน ผนังต่างหากที่ต้องคำนึงมากที่สุด ที่เหลือถือว่าเป็นส่วนประกอบที่ไม่มีผลเรื่องความปลอดภัยของโครงสร้าง แต่เป็นความสวยงามน่าอยู่ของบ้านแสนรักซะมากกว่า
ก่อนจบกระซิบอีก เรื่องว่า ยุคปัจจุบันนี้มีอาชีพใหม่ที่งอกขึ้นมาคือรับตรวจมอบบ้านก่อนโอนโดยบริษัท วิศวกร อยากรู้มีเจ้าไหนบ้างหาได้ง่ายบนออนไลน์ ทำทั้งแบบมือสมัครเล่นและมืออาชีพเป็นเรื่องเป็นราว สนนราคาค่าบริการ 3,000-5,000 บาท บวกลบ
สำหรับคำแนะนำขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ อยากเสียตังค์-ไม่เสียตังค์ เลือกแบบที่ทำแล้วสบายใจ ดีที่ซู้ดเลยค่ะ
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต