จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
อาหารญี่ปุ่นที่หลายคนรู้จักกันดี หนึ่งในนั้นก็ต้องมี “ซูชิ” รวมอยู่ด้วย
“ซูชิ” ในภาษาญี่ปุ่น มีความหมายถึงการรวมกันระหว่างปลากับข้าว ซึ่งก็มีหน้าตาแบบที่เราคุ้นเคยกันดี นั้นคือ ข้าวปั้นที่มีหน้า โดยตัวข้าวนั้นจะมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู มาเคียงคู่กับปลา เนื้อ หรือของคาวชนิดต่างๆ รวมถึงอาหารทะเล ผัก ไข่ เห็ด เป็นต้น
ซูชิมีหลากหลายประเภท ทั้งที่มีลักษณะข้าวเป็นก้อนรูปวงรี มีเนื้อปลาดิบ หรือเนื้อชนิดอื่นวางไว้ด้านบน หรือจะเป็นซูชิรูปทรงกระบอกม้วนยาว ห่อด้วยสาหร่ายแผ่นกว้าง ซูชิรูปกรวย ซูชิรูปกลม ฯลฯ
ซึ่งนอกจากจะมีหน้าตาหลากหลายแล้ว วัตถุดิบที่ใช้ก็มีความหลากหลายเช่นกัน แค่เฉพาะเนื้อปลาดิบที่นำมาทำซูชิก็มีความหลากหลายมากแล้ว ชาวญี่ปุ่นจึงมีการแนะนำลำดับในการกินซูชิ แบ่งตามประเภทเนื้อปลาต่างๆ เพื่อรสชาติที่อร่อยลิ้นมากขึ้น
เริ่มต้นที่การกินปลารสชาติอ่อนก่อน แล้วค่อยไล่ไปหาส่วนที่รสชาติเข้มข้นมากขึ้นในลำดับถัดไป เพราะจะทำให้ปลาที่รสชาติเข้มข้นกว่าไม่ไปกลบรสของปลาที่รสชาติอ่อนกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเรียงลำดับการกินซูชิ คือ ปลาสีขาว, ปลาสีเงิน, ปลาสีแดง, ปลาที่มีรสจัดขึ้น เช่น แซลมอน และไข่ปลาแซลมอน, ปลาที่มันที่สุดให้กินเป็นอย่างสุดท้าย, ของประกอบอื่นๆ ที่มีรสหวาน เช่น ไข่หวาน, และซูชิแบบม้วนธรรมดาที่ห่อด้วยสาหร่าย
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการกินซูชิตามแบบฉบับคนญี่ปุ่นที่ควรรู้ไว้ อาทิ ควรคีบซูชิด้วยตะเกียบ ห้ามจิ้ม (หรือเสียบ) ซูชิด้วยตะเกียบ แต่หากใช้ตะเกียบไม่คล่องก็สามารถใช้มือหยิบได้เลย หรือหากต้องการจิ้มโชยุ ให้จิ้มโดยเอาด้านเนื้อลงจุ่มโชยุ ส่วนวาซาบินั้นให้ทางที่ตัวซูชิ ไม่ควรละลายลงในโชยุ เป็นต้น
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
