สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปฏิวัติ! การใช้ชีวิต : 21 ข้อ ถ้าทำได้ สุขภาพดีชัวร์

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       ไม่ใช่ข้อบังคับว่าคุณจำเป็นจะต้องดำเนินชีวิตตามแนวทางนี้อย่างเป๊ะๆ แต่นี่คือหลักการดูแลสุขภาพ 21 ข้อที่ถ้าทำได้ เราเชื่อมั่นระดับหนึ่งว่า สุขภาพที่ดีจะเป็นของคุณอย่างแน่นอน

ปฏิวัติ! การใช้ชีวิต : 21 ข้อ ถ้าทำได้ สุขภาพดีชัวร์

        1.กำจัดความอ้วน
       ความอ้วนไม่ใช่เรื่องของความ ตุ้ยนุ้ย-น่ารัก หรือแค่ความอร่อยอย่างสนุกปาก แต่นำพาโรคอ้วนและโรคต่อเนื่องร้ายแรงมากมาย รวมถึงมะเร็ง! ที่ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง โดยการงดแป้ง-น้ำตาลอย่างเด็ดขาด เพื่อลดน้ำหนักในช่วงแรก และออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกิน แป้งและน้ำตาลสามารถเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมที่ตับและอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ทำให้การทำงานของร่างกายผิดปกติ
       
       2.กินอาหารมังสวิรัติ
       อาหารที่มีประโยชน์ และมีสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะเอนไซม์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่อาหารจำพวกผัก-ผลไม้ที่ต้องกินให้ครบ 5 สี ถั่วชนิดต่างๆ สมุนไพรและเครื่องเทศ นอกจากจะให้ผลดีต่อสุขภาพ ยังช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรและลดภาวะโลกร้อนได้ด้วย
       
       3.กินอาหารสด จากธรรมชาติ
       ควรกินอาหารที่มีค่า ORAC สูง ที่จะมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ โดยไม่ผ่านการปรุงด้วยความร้อน เพราะจะทำให้สารต้านอนุมูลอิสระถูกทำลาย อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเสื่อมของเซลล์และการกลายพันธุ์ของยีนจนก่อ มะเร็งในที่สุด สารต้านอนุมูลอิสระจะมีอยู่ในผัก ผลไม้ สมุนไพร และเครื่องเทศ มากที่สุด แต่ไม่มีในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์
       
       4.กินเนื้อขาว หลีกเลี่ยงเนื้อแดง
       หาก ยังต้องการกินเนื้อสัตว์อยู่ ควรกินเนื้อขาว (White Meat) และหลีกเลี่ยงเนื้อแดง (Red Meat) รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูป-สำเร็จรูปจากสัตว์ ซึ่งสามารถก่อมะเร็งได้จากหลายปัจจัย ไม่กินอาหาร-ผลิตภัณฑ์จากสัตว์แบบดิบๆ หรือกึ่งสุก-กึ่งดิบ เพราะสามารถติดพยาธิได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บก สัตว์น้ำจืด สัตว์น้ำเค็ม รวมทั้งเชื้อโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนได้หลายโรคเช่นกัน
       
       5.กินแหล่งไขมันที่อิ่มตัวจากพืช
       ควรใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นในการปรุงอาหาร แทนน้ำมันพืชอื่นที่ผ่านกระบวนการซึ่งต้องใส่สารเคมีในการสกัดน้ำมัน และน้ำมันมะพร้าวยังมีประโยชน์มากมาย ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของ “ตะกรันไขมัน” ในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง-หัวใจ
       
       6.หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนสูงในการปรุงอาหาร
       เพราะสารอาหารทุกประเภท เมื่อโดนความร้อนสูง จะมีปฏิกิริยาระหว่างกันเองแล้วผลิตสารก่อมะเร็ง และสารก่อการกลายพันธุ์ มากมาย เช่น คาราเมล เค้ก ขนมปัง หมู-เนื้อ-ไก่ปิ้งย่าง ฯลฯ ซึ่งสารเหล่านี้จะถูกขับออกได้เพียงบางส่วน แต่ที่เหลือจะถูกสะสมที่ตับ
       
       7.หลีกเลี่ยงการกินไขมันทรานส์
       อาหารจำพวกมาร์การีน มันฝรั่งทอด โดนัท ไก่ทอด ฯลฯ โดยเฉพาะการใช้น้ำมันทอดซ้ำและใช้ความร้อนสูงในการปรุงอาหาร จะทำให้เกิดสารก่อมะเร็งได้ และการเกิด "ตะกรันไขมัน" อุดตันหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง-หัวใจ
       
       8.ดื่มน้ำสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นด่าง
       ในปริมาณที่เพียงพอต่อความ ต้องการของร่างกาย เพราะของเหลวภายในร่างกายจะทำงานได้ดีในสภาวะความเป็นด่าง ควรหลีกเลี่ยงน้ำอัดลมทุกชนิด เพราะมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งมีผลทำให้ร่างกายเสียสมดุลกรด-ด่างได้ นอกจากนี้ น้ำอัดลมยังมีปริมาณน้ำตาลสูงมากที่เป็นสาเหตุของโรคอ้วน
       
       9.สูดอากาศบริสุทธิ์อย่างเพียงพอ
       ควรใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี มีออกซิเจนปริมาณสูงจากคลอโรฟิลของต้นไม้ เพราะจะทำให้ร่างกายสามารถนำออกซิเจนไปใช้ในขบวนการเผาผลาญอาหารให้เป็น พลังงานที่ใช้ในกิจกรรมของเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะสมอง และสมองจะส่งสัญญาณเตือนเมื่อได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอหรือเมื่อร่างกายผิด ปกติ ด้วยอาการปวดหัว-เวียนหัว ควรหาสาเหตุที่แท้จริงว่าร่างกายผิดปกติตรงไหน ไม่ควรใช้การรักษาอาการที่ปลายเหตุด้วยการกินยาแก้ปวดเพียงอย่างเดียว
       
       10.นอนหลับให้สนิทในเวลากลางคืน
       อย่างน้อย 7-9 ชั่วโมง เพราะนาฬิกาชีวภาพของร่างกาย จะทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนสำคัญๆ และสารเคมีที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ที่ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต ซ่อมแซมเซลล์ส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์สมอง และกำจัดเซลล์มะเร็ง
       
       11.นอนหลับในท่านอนที่ถูกสุขลักษณะ
       จะไม่ทำให้มีการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอ หัวไหล่ บ่า แผ่นหลัง เอว ต้นขา น่อง ปลายเท้า จากฟูกที่แข็งหรือนิ่มเกินไป จากหมอนนิ่มเกินไป-หมอนสูงหรือเตี้ยเกินไป และจากท่านอนที่ไม่เหมาะสม
       
       12.ยืด-เหยียดกล้ามเนื้อหลังตื่นนอน
       ควรทำท่ากายบริหารส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อยืด-เหยียด-คลายกล้ามเนื้อที่ถูกกดทับ-เกร็งตัวมาตลอดทั้งคืน และทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้อย่างสะดวก และหลอดเลือด-เส้นประสาทไม่ถูกกดเบียดในกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็ง จนทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยสะสม รวมทั้งการช่วยบีบนวดกล้ามเนื้อ-กายบริหารส่วนต่างๆของร่างกายที่รู้สึกปวด เมื่อยในระหว่างการทำงาน
       
       13.ออกกำลังกายเป็นประจำ
       เพื่อกำจัดไขมันเลว-ส่วนเกิน ทำให้กล้ามเนื้อ-กล้ามเนื้อหัวใจ กระดูก-ข้อต่อแข็งแรง และเลือดไหลเวียนดี ซึ่งจะมีผลทำให้อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายสามารถทำงานได้ตามปกติ ควรออกกำลังกายดังนี้ คือ แบบปานกลาง อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และแบบหักโหมอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์
       
       14.มีสติ-สมาธิในทุกๆ กิจกรรมของชีวิตประจำวัน
       เพื่อลดโอกาสความผิดพลาด-อุบัติเหตุ และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยการฝึกนั่งสมาธิเป็นประจำ และมีสมาธิด้วยการจดจ่อกับการกระทำที่อยู่ตรงหน้า โดยไม่กังวล-นึกถึงเรื่องอื่นๆ ในขณะนั้น
       
       15.ใช้ร่างกายอย่างถูกต้อง-เหมาะสม
       ควรระมัดระวังท่านั่ง ท่ายืน ท่าเดิน ท่ายกของให้เหมาะสม ไม่ทำให้เกิดการเกร็งตัว-ฉีกขาดของกล้ามเนื้อ-เส้นเอ็นทั้งแบบเฉียบพลันและ แบบเรื้อรัง ควรพักสายตาบ่อยๆ หากต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ และไม่ควรใช้อวัยวะ-ส่วนของร่างกายอย่างผิดประเภท เช่น ใช้ฟันเปิดขวด-กัดของแข็งๆ ที่ไม่ใช่อาหาร
       
       16.ล้างพิษตับเป็นประจำ
       เพื่อเป็นการกำจัดขยะสารพิษ-สารก่อมะเร็งของร่างกาย ที่สะสมอยู่ในเซลล์ไขมันของตับ เพราะตับเป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ มีหน้าที่ผลิตสารต่างๆ ในการควบคุมการทำงานของอวัยวะส่วนต่างๆ
       
       17.ตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีนที่สำคัญ-จำเป็น
       โดยเฉพาะโรคที่สามารถก่อมะเร็งได้ เช่น ไวรัสตับอักเสบ HPV (Human Papilloma Virus) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งหลายชนิดทั้งในเพศหญิง และเพศชาย โดยติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ และฉีดวัคซีนในแต่ละช่วงอายุอย่างเหมาะสม-ตามสถานการณ์ เช่น หัดเยอรมัน ไข้หวัดใหญ่ ไข้เหลือง
       
       18.มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
       โดยเฉพาะกับคู่ชีวิตของตัวเอง หรือก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์กับใคร ควรแน่ใจว่าได้รับทราบผลการตรวจเลือดของคนผู้นั้นแล้วว่าไม่ติดเชื้อโรคร้าย แรง เช่น HIV (เอดส์) HPV (ไวรัสก่อมะเร็งจากการมีเพศสัมพันธ์-ติดจากสิ่งแวดล้อมเสี่ยง) ไวรัสตับอักเสบ และคู่ชีวิตควรซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่สำส่อนทางเพศจนก่อปัญหาชีวิต-ครอบครัว และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
       
       19.หลีกเลี่ยงการรับ-สัมผัสอนุมูลอิสระ
       ควรศึกษาว่าร่างกายสามารถได้รับอนุมูลอิสระจากที่ใดได้บ้าง และควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง การกินเข้าไป หรือการเข้าใกล้บริเวณนั้นๆ โดยเฉพาะรังสีอัลตร้าไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ ซึ่งต้องปกป้องทั้งผิวหนังและดวงตา เพราะอาจก่อมะเร็งได้ และมีผลเสียต่อการมองเห็นจากต้อหลายๆ ชนิด ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้า-หมวกกันแดด เพื่อปกป้องผิวหนังให้มิดชิด สวมแว่นกันแดด-ทาครีม ที่ป้องกัน UVA และ UVB
       
       20.หลีกเลี่ยงการบริโภค-รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
       โดยเฉพาะบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติดที่มีผลลบต่อสุขภาพ ทำให้เป็นมะเร็งที่ปอด-ทางเดินหายใจ หลอดเลือดตีบตัน เซลล์สมองถูกทำลายอย่างถาวร และกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนได้ในที่สุด รวมทั้งการก่ออาชญากรรมและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
       
       21.ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายเป็นประจำทุกวัน / ทุกๆ ครั้งที่ปวด
       ไม่ควรอั้น-กลั้นปัสสาวะบ่อยๆ เพราะอาจทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบจากการติดเชื้อได้ ฯลฯ ควรดื่มน้ำให้มีปริมาณมากเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพื่อไม่ให้การไหลเวียนของเลือดหนืดเกินไป จนส่งผลให้เกิดสภาวะความดันเลือดสูง และหัวใจอาจต้องบีบตัวทำงานหนักเกินไปจนถึงขั้นหัวใจล้มเหลว ไม่ควรจำกัดการดื่มน้ำเพียงเพราะไม่ต้องการเดินไปเข้าห้องน้ำไกลๆ หรือห้องน้ำสาธารณะไม่สะอาดพอ ควรสังเกตลักษณะ-รูปร่าง ปริมาณ กลิ่น และสีของปัสสาวะและอุจจาระทุกๆ ครั้ง เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถบ่งบอกความผิดปกติของร่างกายได้ รวมทั้งการสะสมของอุจจาระภายในลำไส้นานเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดสารพิษหลากหลายชนิดดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกายได้ตลอดเวลา

ขอบคุณข้อมูล จาก

Siwa Hong กับ แอนลี่ นนท์ Chulalongkorn University


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : ปฏิวัติ การใช้ชีวิต ทำได้ สุขภาพดี ชัวร์

view