จากประชาชาติธุรกิจ
ชิ้นส่วนรถยนต์เล็กๆ ที่สำคัญกับความปลอดภัยมากๆ หากขาดมันไปรับรองได้เลยว่า เกิดอุบัติเหตุแน่นอน ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ ผ้าเบรก นั่นเอง สำหรับบางคนอาจไม่เคยนึกถึงมันเลย เพราะมันคือชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ไม่ค่อยโผล่หน้าตามาให้เห็นกันชัดๆ จะเข้าไปทักทายกันแต่ละทีก็ต้องยกรถ มุดล้อเข้าไปดู ถึงจะรู้ว่าอยู่ดีมีสุข ยังใช้งานได้ยาวๆ หรือจวนเจียนใกล้หมด ต้องรีบหามาเปลี่ยนใหม่กันแล้ว
ผ้าเบรกเป็นอุปกรณ์สร้างแรงเสียดทาน โดยการกดเข้ากับดิสก์ หรือดรัมเบรกมีพื้นฐานคือ เนื้อวัสดุของตัวดิสก์ หรือดรัมเบรกต้องแข็งเพื่อไม่ให้สึกหรอเร็ว แต่พื้นผิวต้องไม่ลื่น ส่วนผ้าเบรกต้องมีเนื้อนิ่มกว่าตัวดิสก์ หรือดรัม เพื่อให้มีแรงเสียดทานสูง หรือสึกหรอมากกว่า เนื่องจากเปลี่ยนได้ง่าย โดยมีการผลิตขึ้นจากวัสดุผสมหลายอย่าง และอาจผสมกับโลหะเนื้อนิ่ม เพื่อให้เบรกในช่วงความเร็วสูงได้ดี
“ผ้า เบรกจึงถือเป็นสิ่งสำคัญส่วนหนึ่งในการช่วยหยุดรถ ทั้งในสถานการณ์ปกติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน หากรถยนต์ของท่านผ้าเบรกยังมีเหลือให้ใช้งานเยอะ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ถ้ารถยนต์ของท่านผ้าเบรกเหลือน้อยแล้ว ควรรีบไปหามาเปลี่ยนใหม่ เพราะราคาผ้าเบรกไม่ได้แพงอะไรมากมาย มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน”
ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้
1. ผ้าดิสก์เบรกราคาถูกทั่วไป ที่มีส่วนผสมของสาร Asbestos หรือที่เรียกกันว่า "ผ้าใบ" จะมีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ คุณสมบัติในการเบรกจะใช้ได้ดีในความเร็วต่ำๆ หรือระยะต้นๆ แต่เมื่อความเร็วสูงขึ้น ประสิทธิภาพในการเบรกจะลดลงอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญ อายุการใช้งานจะสั้น ผ้าดิสก์เบรกหมดเร็ว นอกจากนั้นแร่ใยหินมีผลต่อสุขภาพ ในปัจจุบันจึงมีการใช้น้อยลง
2. กลุ่มที่ไม่มีส่วนผสมของสาร Asbestos หรือกลุ่ม Non-organic แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
2.1 ผ้าเบรกรถยนต์ ที่มีส่วนผสมส่วนใหญ่เป็นโลหะ(Semi-metallic) ซึ่งมาแทนที่สาร Asbestos ผ้าเบรคชนิดนี้จะเป็นผ้าเบรคที่ถูกผลิตจากบริษัททางฝั่งยุโรป ยี่ห้อที่เราคุ้นหูเป็นอย่างดี ก็จะมี Bendix และ Mintex ฯลฯ
2.2 ชนิดที่มีส่วนผสมของสารอนินทรีย์อื่นๆ จะเป็นผ้าดิสก์เบรกของผู้ผลิตจากญี่ปุ่น เช่น Akebono โดยในกลุ่มนี้จะมีราคาที่สูงกว่าผ้าเบรกที่ผสมสาร Asbestos แต่ในเรื่องคุณภาพสัมประสิทธิ์ของความฝืด ความทนทานต่อการสึกหรอ มีสูงกว่ามาก
ส่วนการตรวจสอบผ้าเบรก ว่าถึงระยะต้องเปลี่ยนหรือยัง ควรตรวจสอบทุก 3 เดือน หรือ 5,000 กิโลเมตร ส่วนเรื่องอายุการใช้งานผ้าเบรก ไม่มีใครสามารถระบุได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การใช้งานของแต่ละคน น้ำหนักของรถที่ไม่เท่ากัน ชนิดของผ้าเบรก ฯลฯ
สำหรับรถรุ่นใหม่ๆ นั้น จะมีระบบไฟสัญญาณเตือนผ้าเบรก (Wear Indicator) มาให้เมื่อผ้าเบรกใกล้หมด มันจะแสดงโชว์เตือนอยู่บนหน้าปัด และสำหรับรถรุ่นเก่าจะมีการเตือนด้วยเสียง โดยแผ่นเหล็กที่ติดอยู่ที่ผ้าเบรกจะขูดกับจานเบรกจนเกิดเสียงดังนั่นเอง หากถึงขั้นนี้แล้ว ต้องรีบเปลี่ยนทันที ไม่งั้นได้เสียเงินเพิ่มเจียรจานเบรกใหม่แน่
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต