จาก โพสต์ทูเดย์
เรื่อง...เอกชัย จั่นทอง / ภาพ...เฟซบุ๊ก ANTI SOTUS
เข้าสู่ช่วงเปิดเทอมสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา รุ่นพี่หลายสถาบันเริ่มวางแผนจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ ซึ่งทุกปีที่ผ่านมามักพบว่ารุ่นพี่ในสถานศึกษาบางแห่งทำกิจกรรมรับน้องรุนแรงจนเกินเหตุถึงขั้นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต กลายเป็นประเด็นที่ผู้ปกครองและสังคมกังวล
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ได้ประสานทางสถานศึกษาให้เข้ามากวดขันสอดส่องดูแลกิจกรรมรับน้อง เพื่อให้อยู่ในการควบคุมและไม่เกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิต โดยขอให้แจ้งกำหนดการ สถานที่ บอกชื่อผู้ควบคุมการปฏิบัติงานทั้งหมด และให้มีอาจารย์ระดับบริหารค่อยสังเกตการณ์ร่วมด้วย อีกทั้งขอให้ทางโรงเรียนดูแลการทำกิจกรรมอย่างใกล้ชิดจนกว่าเสร็จสิ้นกิจกรรมการรับน้อง
“นอกจากนี้ควรให้ผู้ปกครองติดต่อผู้ควบคุมการทำกิจกรรมรับน้องได้ เพื่อสอบถามความเคลื่อนไหวต่างๆ ถ้าเป็นไปได้ควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองเข้าไปสังเกตการณ์ได้ด้วย และเพื่อความไม่ประมาทตำรวจจะสอดส่องดูแลตามปกติ เพราะหากปล่อยปละละเลยอาจเกิดปัญหาขึ้นมาได้อีก” พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว
ขณะที่ สรวิทย์ ลิมปรังษี ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ในฐานะรองโฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า กฎหมายที่เข้าข่ายในกิจกรรมการรับน้องโหดนั้น มีหลายข้อประกาศบังคับใช้ตามประมวลกฎหมายอาญาอยู่แล้ว เช่น การพูดให้คนใดคนหนึ่งเป็นที่ดูหมิ่นเกลียดชังหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง อาจเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท อาจต้องรับโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี ปรับสูงสุด 2 หมื่นบาท ตามมาตรา 326 การลงมือทำร้ายถึงขั้นเลือดตกยางออก บวมเขียวช้ำ อาจเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย อาจต้องรับโทษสูงสุดจำคุก 2 ปี ปรับสูงสุด 4,000 บาท ในมาตรา 295
นอกจากนี้ การบังคับจิตใจผู้อื่นให้ฝืนใจทำบางอย่างที่ไม่ได้มีความเต็มใจ แต่ต้องทำเพราะถูกบังคับโดยการใช้กำลังประทุษร้าย หรือทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน อาจเป็นความผิดฐานข่มขู่ อาจต้องรับโทษสูงสุดจำคุก 3 ปี ปรับสูงสุด 6,000 บาท มาตรา 309 แม้แต่เรื่องการกักบริเวณไม่ยอมให้ผู้อื่นกลับบ้าน เป็นความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว อาจต้องรับโทษสูงสุดจำคุก 3 ปี ปรับสูงสุด 6,000 บาท ตามมาตรา 310
รองโฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุด้วยว่าการลงมือทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เช่น ต้องนอนโรงพยาบาลเกิน 20 วัน หรือจิตพิการอย่างติดตัว อาจต้องรับโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี มาตรา 297 การลงมือทำร้ายบุคคลอื่นจนถึงแก่ความตาย อาจต้องรับโทษสูงสุดจำคุก 15 ปี มาตรา 290 ทั้งหมดเป็นกฎหมายที่เข้าข่ายกระทำความผิด ผู้เสียหายหรือนักศึกษาที่ถูกกระทำสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย
สรวิทย์ กล่าวเตือนด้วยว่า การทำกิจกรรมรับน้องใหม่หรือนักศึกษาใหม่นั้น ต้องทำกิจกรรมที่เหมาะสมเสมือนรุ่นพี่ต้องการต้อนรับรุ่นน้องเข้าสู่สถาบันการศึกษา ไม่ควรใช้วิธีการที่รุนแรงจนได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย รวมถึงส่งผลกระทบต่อจิตใจ หากรุ่นน้องที่ถูกกระทำจนได้รับบาดเจ็บในกิจกรรมนั้นๆ เกินกว่าเหตุหรืออันตราย ต้องโต้แย้งบอกรุ่นพี่ไปทันที หรือแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องให้ทราบดำเนินการแก้ไข
“จริงแล้วมันเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ทั่วไปอยู่แล้ว ตัวอย่างง่ายๆ หากรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายรุ่นน้อง หรือแม้แต่ใครเอาไม้มาตีหัวเราจนได้รับบาดเจ็บ มันก็ถือเป็นลักษณะเดียวกัน หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ในการรับน้อง ถือว่าไม่ใช่ข้ออ้างว่าเป็นการรับน้องใหม่แล้วจะทำอะไรก็ได้” รองโฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าว
ไร่รักษ์ไม้,Eosgear,มูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,victorinox,แปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit,ราคา,อร่อย