จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์สามัญสำนึก โดย สกุณา ประยูรศุข

หลายคนมีโอกาสเดินทางไปจังหวัด เชียงใหม่วันนี้ ไม่ว่าไปท่องเที่ยว หรือไปทำธุระ กลับมาแล้วมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เชียงใหม่ไม่เหมือนเดิม"

ความรู้สึกที่คนเหล่านั้นมีต่อเชียงใหม่ คือ เชียงใหม่วันนี้เปลี่ยนไป ทั้งทางกายภาพ และเสน่ห์มนต์ขลังที่เคยดึงดูดผู้คนให้ไปเยือน ใครไปมาแล้วก็ยังอยากไปอีก

แต่เชียงใหม่วันนี้ อาคารร้านค้ามากขึ้น ตึกสูงมากขึ้น อาคารพาณิชย์ ห้างสรรพสินค้าระดับบิ๊กบึ้มแบบเดียวกับในกรุงเทพฯ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ผู้คนก็มากขึ้น ที่สำคัญจำนวนรถยนต์เพิ่มมากขึ้นหลายสิบเท่า จนการจราจรติดหนึบมีอาการเดียวกันกับที่เมืองหลวงของประเทศไทย ซึ่งตัวเลขอย่างเป็นทางการของกรมการขนส่งทางบก ระบุไว้ถึงปี 2557 มีจำนวน 1,245,053 คัน ขณะที่จำนวนประชากรในเชียงใหม่ล่าสุดถึงเดือนพฤษภาคม 2557 มี 1,665,234 คน !!

พอจะมองเห็นภาพกันแล้ว ว่าทำไมการจราจรในเชียงใหม่จึงรถติดเป็นตังเม

ยิ่งตอนนี้ใครที่ไปเชียงใหม่ ต้องประหลาดใจกับสิ่งก่อสร้างใหม่ที่โผล่ขึ้นมา จนต้องออกปากสอบถามว่า "สร้างขึ้นมาทำไม ?" นั่นคือสะพานไม้ข้ามคูเมือง ซึ่งแต่เดิมทัศนียภาพรอบคูเมืองเชียงใหม่จะสามารถมองเห็นสายน้ำทะลุตลอดแนวยาว แต่เดี๋ยวนี้กลับมีสะพานไม้ที่ (เขา) คิดว่าสวยงาม สร้างขึ้นมาบดบังสายตา ก่อให้เกิดความอึดอัดมากกว่าจะเห็นว่าเป็นประโยชน์

แต่เดิมเคยรู้สึกว่ากลุ่มท้องถิ่น จังหวัดเชียงใหม่ ที่คอยดูแลปกปักรักษาวัฒนธรรมประเพณีล้านนา เข้มแข็งมาก แต่เดี๋ยวนี้กลับไม่ค่อยเห็นบทบาทเหมือนแต่ก่อน หรือหายเงียบไปเลยทีเดียว

ความแออัดยัดเยียดของสิ่งปลูกสร้าง จนกลายเป็น เมืองที่ไม่มีผังเมือง วัดวา โบสถ์วิหาร ถูกซ่อมแซมดัดแปลงบูรณะจนไม่เหลือเสน่ห์ ไม่เหลือความงดงามของสถาปัตยกรรมล้านนาดั้งเดิม

ไปเชียงใหม่อย่าได้หวังจะเห็นแม่หญิงเชียงใหม่ นุ่งซิ่น เกล้ามวย กางจ้อง จะเห็นก็มีแต่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด หรือเสื้อตาข่ายรูกว้าง เดินร่อนไปทั่วเมือง

สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะสู้แรงไหลบ่าของ "ทุนนิยม" ไม่ไหว เชียงใหม่จึงเละตุ้มเปะอย่างทุกวันนี้

ปัญหาหนักของเชียงใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น คือ ทัวร์จีน ซึ่งเวลานี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาในเชียงใหม่ มีราว ๆ 20,000 คนต่อปี แต่มีการคาดการณ์ว่าปี 2558 ไปจนถึงปลายปีต่อต้นปี 2559 หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนจะกระโดดขึ้นไปที่ 50,000 คนต่อปี เพราะทุกวันนี้สามารถเดินทางสะดวกขึ้น ง่ายขึ้น ไม่ต้องมาทางเครื่องบิน แต่ใช้ถนนขับรถเข้ามาทางด่านเชียงของ มากันทีเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ

นักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากนี้ได้ก่อปัญหาให้กับเมืองเชียงใหม่ จนถึงขั้นร้านค้าบางร้านประกาศไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน แม้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่มี กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เป็นรัฐมนตรีว่าการ จะบอกอยู่ปาว ๆ ว่าพยายามแก้ไข โดยแจกคู่มือให้กับทัวร์จีน เกี่ยวกับ "Do" และ "Don′t" ในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ทัวร์จีนยังคงส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย ทำตามอำเภอใจ โดยเฉพาะการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่คำนึงถึงกฎจราจร อ้างว่าอ่านภาษาไทยไม่ออก การสร้างปัญหาเรื่องความสกปรก การทิ้งขยะกองสุมไว้หน้าห้องพักในเกสต์เฮาส์ หรือโรงแรม

ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนถือว่ามีบทบาทอย่างมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ให้มีความคึกคักและขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง

ว่าไปก็เหมือนกับเชียงใหม่จะล่มสลายไปทุกขณะ ซึ่งหากคนเชียงใหม่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้มีหน้าที่ต้องแก้ไข ไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด จะทำอย่างไรกับปัญหาที่กล่าวมา วันที่เชียงใหม่ล่มสลายก็คงจะมาถึงในสักวัน

"เงิน" และ "กล่อง" จะเลือกอะไร ? หรือจะเลือกไว้ทั้งสองอย่าง แต่ต้องมีวิธีจัดการ

ทิ้งไว้เป็นการบ้านให้คิดกันเล่น ๆ

ไร่รักษ์ไม้,Eosgear,มูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,victorinox,แปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit,ราคา,อร่อย