เพจดังเมืองกาญจน์เปิดเอกสารแฉ "สัญญาอัปยศ" งบสร้างสะพานมอญ "จังหวัดกับบริษัทผู้รับเหมา
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
กาญจนบุรี - "สะพานมอญ โมเดล" เพจชื่อดังเมืองกาญจน์ ทยอยแฉพฤติกรรม "สัญญาอัปยศ" งบสร้างสะพานมอญ ระหว่าง "จังหวัดกับบริษัทผู้รับเหมา" พร้อมนำเอกสารสัญญาประนีประนอมยอมความออกมาเปิดเผย พร้อมแฉภาพคานตรงสะพานมอญฉีกขาด ผลงานเน่าที่บริษัทรับเหมาทำทิ้งไว้ให้ทหารแก้อีก ขณะที่กลุ่มแอดมินยื่นเรื่องเป็นหนังสือร้องเรียนให้ คสช. ป.ป.ช. และ สตง.แล้ว
วันนี้ (19 ก.ค.57) ที่หน้าเฟซบุ๊กทวงคืนสะพานมอญ ชื่อ "สะพานมอญ โมเดล" ได้มีการนำเอกสารสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจังหวัดกาญจนบุรี กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ บริษัทผู้รับเหมา ซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
โดยเจ้าของเพจ ได้ตั้งหัวข้อด้านบนว่า "สัญญาประนีประนอม หรือสัญญาอัปยศกันแน่ เดี่ยวอีกสักพักจะมาเฉลย อีกหนึ่งตัวละครที่เป็นติ่งตัวสำคัญของไอ้เถิก ที่ชงเรื่องเพื่อนำไปสู่สัญญาอัปยศครั้งนี้ จนนำมาซึ่งต้องสูญเสียเงินบริจาคจำนวน 10 ล้านบาทให้กับผู้รับเหมาคนกันเอง ตามแผนที่วางกันเอาไว้ตั้งแต่ต้นของไอ้เถิกทีม"
โดยหลังจากนั้นไม่นาน มีผู้คนเข้าไปกดไลค์มากกว่า 100 คน และมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทั้งหมดกล่าวตำหนิและไม่เห็นด้วยกับสัญญาดังกล่าวอย่างชัดเจน
สำหรับ สัญญาประนีประนอมยอม ความ ระหว่างจังหวัดกาญจนบุรี กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ทำขึ้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา
ก่อน หน้านั้น เพจ "สะพานมอญ โมเดล" ได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการไกล่เกลี่ยปัญหาใน การซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ วันที่ 4 กันยายน 2557 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมดาวดึงส์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี
โดย ในเอกสารที่ เพจ สะพานมอญ โมเดล นำมาเปิดเผยพบรายละเอียดคือ "ระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการไกล่เกลี่ยปัญหาในการซ่อมแซมสะพานอุตตมานุ สรณ์" วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน 2557 เวลา 14.00 น. ณ ห้องดาวดึงส์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี
ระเบียบวาระที่ 1.เรื่องที่ประธานแจ้งที่ประชุม จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งที่ 2131/2557 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการไกล่เกลี่ยปัญหาในการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์
ระเบียบวาระที่ 2.เรื่องเพื่อพิจารณา 2.1 การพิจารณาไกล่เกลี่ยและจัดทำแนวทางข้อตกลง เงื่อนไข ในการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ 2.2 คณะอนุกรรมการพิจารณา ประเมินราคาค่างานฯ-คำสั่งจังหวัดกาญจนบุรี.../2557 ลงวันที่ ....กันยายน 2557 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาประเมินราคา ชดเชยในการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ - การพิจารณา ประเมินราคาฯ และระเบียบวาระที่ 3.เรื่องอื่นๆ
จากเอกสารดังกล่าวเห็นได้อย่างชัดเจนว่า คณะ กรรมการไกล่เกลี่ยที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้แต่งตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2557 ประกอบด้วย อัยการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้แทนจังหวัดกาญจนบุรี ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี กำนันตำบลหนองลู และผู้จัดการ หจก.ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์
คณะกรรมการไกล่เกลี่ยที่เดินทางประชุมในวันที่ 4 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา มีกำนันตำบลหนองลู ที่ไม่รู้ตัวมาก่อนว่า จังหวัดกาญจนบุรี แต่งตั้งให้ตนเองขึ้นมาเป็นคณะกรรมการไกล่เกลี่ย แต่มารู้ทีหลัง จึงไม่สามารถเดินทางมาได้ เนื่องจากติดภารกิจที่ต่างจังหวัด
นอกนั้นมาครบทั้งหมดและในวันนั้นจังหวัดกาญจนบุรี ได้เรียกวิศวกรตรวจงานเข้ามาร่วมประชุมด้วย โดยที่ทุกคนเข้าใจว่าจะประชุมเพื่อหาบุคคลหรือหน่วยงานที่ไม่มีส่วยได้ส่วน เสียเข้ามาเป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาประเมินราคา ชดเชยในการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์
แต่ผลการประชุมในวันนั้นกลับมีการรวบรัดขั้นตอน โดยไม่มีการหารือเพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาประเมินราคาแต่อย่างใด แต่กลับมีการร่างสัญญาประนีประนอมยอมความ ระหว่างจังหวัดกาญจนบุรี กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ เพื่อจ่ายค่าชดเชย ที่ทางผู้รับเหมาลงทุนไปทั้งหมด โดยบริษัทผู้รับเหมาเป็นผู้เสนอราคา จังหวัดมีหน้าที่ต่อรองราคา สุดท้ายตกลงกันได้ที่วงเงินจำนวน 10 ล้านบาท และจะจ่ายให้ภายใน 7 วัน
ทำ ให้ผู้ที่เข้าร่วมประชุมใน วันนั้น สงสัยว่าทำไมจังหวัดกาญจนบุรี จึงรวบรัดเร่งรีบเพื่อที่จะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้รับเหมา ทั้งที่ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาประเมินราคา ชดเชยในการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ ตามระเบียบวาระ ที่ 2.2 และจนถึงปัจจุบันเวลาผ่านมา 13 วันยังไม่ทราบว่า จังหวัดกาญจนบุรี ได้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้กับทางบริษัทไปแล้วหรือยัง
และจากการเข้าไปดูข้อมูลใน เพจ "สะพานมอญ โมเดล" ได้มีการรายงานข้อมูลข่าวสารทางด้านเอกสารเกี่ยวกับข้อพิรุธในใบสัญญาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และมีการเรียกร้องให้สมาชิกช่วยกันตรวจสอบเงินที่ได้รับบริจาคจากหน่วยงาน ต่างๆ เพื่อสมทบทุนซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ จากรายละเอียดต่างๆ
ล่าสุดหน้า เพจ สะพานมอญ โมเดล ได้เขียนระบุว่า ทางกลุ่ม แอดมิน ได้ยื่นเรื่องเป็นหนังสือร้องเรียนให้ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไปแล้ว คาดว่าจดหมายน่าจะส่งถึงแล้ว ทีนี้อยากให้ทุกท่านช่วยกัน โทรไปหรือส่งจดหมาย หรืออีเมล์ ช่องทางใดก็ได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเรื่องให้ได้เห็นว่ามีคนรอคอยติดตามเรื่องนี้อยู่อีก อย่างมากมาย *ร่วมกันแจ้งไปว่ามาตามเรื่องที่มีคนจดหมายร้องเรียนเรื่องการซ่อมสะพานมอญ จะได้เป็นการเร่งเอาคนชั่วมาลงโทษ เพราะถึงแม้มันจะเกษียนไปแล้ว แต่ความผิดที่ทำไว้ ยังคงต้องสืบสาวราวเรื่องต่อไป
**พบผลงานเน่า บ.รับเหมา ทำไว้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารกำลังซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ ฝั่ง อ.สังขละบุรี ที่ทางห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ผู้รับเหมาทำทิ้งไปยายประมาณ 8 เมตร พบว่าไม้ปูพื้นฝั่งขวามือมีลักษณะไม้ดุ้งขึ้นมาผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบ
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ถึงกับตกใจเนื่องจากพบว่าคานตรงที่ทำด้วย ไม้แดงสดฉีกขาดยาวกว่า 50 ซม. ตะปู 4 นิ้วที่ตียึดเอาไว้หลุดออกจากคานตรง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเจ้าหน้าที่ทหารคาดว่า เป็นเพราะทางบริษัทผู้รับเหมาเร่งรีบดำเนินการนำไม้ท่อนมาแปรรูปที่หน้างาน เพื่อทำคานตรง โดยไม่ผ่านกรรมวิธีอาบน้ำยาเคลือบเนื้อไม้ให้แข็งแรง อีกทั้งไม้ชนิดดังกล่าวอายุไม่มากและสดอยู่ ทำให้ไม้แปรรูปที่นำมาทำคานตรงไม่สามารถรับน้ำหนักได้ จึงฉีกขาด
แต่จากการตรวจสอบพบว่าน้ำหนักที่คานตรงจุดดังกล่าวมีไม่มากนัก จึงเชื่อได้ว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับการรองรับน้ำหนัก แต่เป็นเพราะคุณภาพของไม้ที่ผู้รับเหมานำมาซ่อมสะพาน ไม่ได้มาตรฐานมากกว่า
นอก จากนี้ เจ้าหน้าที่ยังต้องแก้ไขปัญหาที่ทางผู้รับเหมาทำทิ้งไว้อีกเป็นจำนวนมาก เช่น ตะปูที่ทางผู้รับเหมานำมาตอกยึดก็เป็นตะปูขนาด 4 นิ้ว เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนมาใช้ตะปู 5 นิ้วแทน
ส่วนเหล็กฉากที่นำมายึดระหว่างคานตรงกับคานขวางเพื่อความแข็งแรงของ สะพาน ทางผู้รับเหมาได้นำเหล็กฉากขนาด 2 นิ้วคูณ 2 นิ้ว มาใช้ด้วยการตีตะปูเอาไว้แล้วใช้น๊อตขนาดเล็กยึดเอาไว้เพียง 1 ตัว เจ้าหน้าที่จึงต้องเปลี่ยนด้วยการนำเหล็กฉากขนาด 6 นิ้วคูณ 6 นิ้วมาใช้และใช้น็อตขนาดใหญ่ถึง 4 ตัวมายึดติดแทน จากสาเหตุดังกล่าวทำให้การดำเนินการซ่อมแซมบูรณะสะพานช้าลง เพราะต้อมาแก้ไขปัญหาที่ทางผู้รับเหมาทำทิ้งไว้
แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังคงเหลือเสาต่อม่อที่ต้องต่ออีก 7 ตับ ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้เวลาและต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ ซึ่งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ยังคงร่วมแรงร่วมใจกันนำอาหารและเครื่องดื่มมาบริการ เจ้าหน้าที่ตลอดเวลา
รื้อเสาเข็มสะพานมอญทิ้งใช้ไม้ยาวไม่เท่ากัน
จาก โพสต์ทูเดย์
กาญจนบุรี-ซ่อม สะพานมอญพบเสาเข็มทุกต้นยาวไม่เท่ากันต้องรื้อทิ้งเป็นไม้ตัดใหม่ไม่ผ่านการ อาบน้ำยาและไม่ผ่านความเห็นชอบจากผู้ควบคุมงาน
พัน เอกสนิธชนก สังขจันทร์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า เดินทางไปตรวจความคืบหน้าการซ่อมบูรณะสะพานมอญ พบว่าจะต้องทำการรื้องานที่ผู้รับเหมาเดิมทำทิ้งไว้เกือบทั้งหมด ยกเว้นเสาเข็มที่ผู้รับเหมาตอกทิ้งไว้ เนื่องจากการรื้อถอนยากลำบาก แต่คาดว่าประมาณ 1 ปี จะต้องทำการรื้อทิ้งเช่นกัน เนื่องจากไม้ที่นำมาทำเสาเข็มไม่มีคุณภาพ และไม่ได้ขนาด จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า ต้นเสาเข็มมีความยาวไม่เท่ากัน บางต้นความยาวรวม ไม่ถึง 12 ม. (2ท่อนต่อ) และบางท่อน ยาวไม่ถึง 6 ม. บางต้นยาวรวมประมาณ 13 ม. (3 ท่อนต่อ) แต่ละท่อนยาวไม่ถึง 6 ม.เสาเข็มทุกต้นเป็นไม้ตัดใหม่ และยังไม่ได้อาบน้ำยารักษาเนื้อไม้ เสาเข็มเป็นไม้รวม มีไม้ 4 ชนิด ไม้แดง ไม้เต็ง ไม้ประดู่ ไม้ตราเสือ (สัญญาเดิม มีไม้แดง ไม้ตะเคียนทอง ไม้มะค่าโมง) ซึ่งไม้ที่นำมาใช้ทำเสาเข็มทุกต้น และวัสดุทุกชิ้น ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ควบคุมงานก่อนนำมาใช้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงและโครงสร้างของสะพาน และเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้
ทั้ง นี้ยังคงเหลือการดำเนินการอีกประมาณ 7 ช่วงเสา ก็จะแล้วเสร็จ โดยในแต่ละช่วงเสาใช้เวลา 3 วัน สำหรับการทำงานส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการต่อเสาไม้ โดยใช้รอกไฟฟ้ายกเสาไม้ขึ้นไปต่อ การใช้แรงคนชักลากไม้ขึ้นจากน้ำ เพื่อทำการบากไม้และต่อเสา และยังคงช่วยกันรื้อไม้ปูพื้นที่ผู้รับเหมาทำไว้อย่างต่อเนื่อง โดยต้องทำหารรื้อทั้งหมด ความยาวรวม 36 เมตร
นอก จากนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องแก้ไขปัญหาที่ทางผู้รับเหมาทำทิ้งไว้อีกเป็นจำนวน มาก เช่น ตะปูที่ผู้รับเหมานำมาตอกยึดพบว่าเป็นตะปูขนาด 4 นิ้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนมาใช้ตะปู 5 นิ้วแทน ส่วนเหล็กฉากที่นำมายึดระหว่างคานกับตงก็มีขนาดเพียง 2x2 อีกทั้งยังใช้ตะปูขนาด 2 นิ้ว ตีไว้ โดยใช้น็อตขนาดเล็กยึดเอาไว้เพียงตัวเดียวเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงต้องเปลี่ยนด้วยการนำเหล็กฉากขนาด 6x6 นิ้วมาใช้ และใช้น็อตขนาดใหญ่ถึง 4 ตัวมายึดติดแทน
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต