จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เฉลา กาญจนา
หลายคนกำลังตั้งคำถามว่าชาวนาจะได้"เงินค่าข้าว"หรือไม่? หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ระบุชัดไม่มีอำนาจ
พิจารณาว่ารัฐบาลจะกู้เงินเพิ่ม เพื่อนำมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าวได้หรือไม่ แถมบอกว่าให้เป็นดุลยพินิจของรัฐบาลพิจารณาเอง แต่ต้องรับผิดชอบหากผิดกฎหมาย
จริงๆ แล้วการหารือระหว่างกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับกกต.ไม่จำเป็นต้องหารือเลยเพราะถึงอย่างไรกกต.ก็ไม่อนุมัติอยู่แล้ว
สัปดาห์ก่อนสมชัย ศรีสุทธิยากรกรรมการกกต.เริ่มส่งสัญญาณประมาณ"ให้ไม่ได้"อยู่แล้ว เพราะการขอกู้เงิน1.3 แสนล้านบาท ไม่ต่างอะไรกับการขอระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ที่กกต.มีบทสรุปให้ไปแล้ว พร้อมกับยกข้อกฎหมายมาตรา 181 (3) และ(4) ขึ้นมาอธิบายสมชัย บอกด้วยซ้ำกกต."ปิดประตูตอกฝาโลงหมดแล้วว่าทำไม่ได้"เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา181"รัฐบาลรักษาไม่สามารถทำสัญญาซื้อขายหรือสัญญาที่มีผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไปได้"หากใครอ่านสัญญาณตรงนี้ก็จะเห็นชัดแล้วว่ากกต.ไม่เอาด้วย
โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล หนึ่งในนโยบายประชานิยม เรียกว่ามันผิดพลาดมาตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว เพราะตั้งราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาด 20-30% แถม"รับจำนำทุกเม็ด"ประเด็นนี้สำหรับชาวนา หากได้จริงถือเป็นอานิสงส์ที่ดี แต่ในทางปฎิบัติตรงกันข้าม รัฐบาลใช้เงินจำนวนมาก แต่กลับไปถึงชาวนาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เรียกว่ารั่วไหลกลางทางจำนวนมาก
การตั้งราคารับจำนำข้าวในราคาสูงๆหวังว่า จะได้เงินจากการระบายข้าวแบบจีทูจี หรือประมูลขายทั่วไป เข้ามาหมุนเวียนได้ แต่ในทางปฎิบัตมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุยโม้โอ้อวดไว้ เพราะไส้ในของโครงการนี้มีกระบวนการวางแผนกันแยบยลแบบจ้อง"คอร์รัปชัน"กันมาแต่ต้นอยู่แล้ว
หากย้อนกลับไปเราจะเห็นตัวละครที่ถูก"อุปโลกน์"ขึ้นมาเกี่ยวกับการระบายข้าวจำนวนไม่น้อย โดยมีหัวหน้ากลุ่มเป็น"เจ้ใหญ่" จอมเรียกเปอร์เซ็นต์ ที่ใครต่อใครต้องสวามิภักดิ์ .
ความเลวร้ายของการระบายข้าวช่วงที่ผ่านมา เสมือนการสร้างละครขึ้นมาอ้างระบายข้าวจีทูจี ให้กับประเทศนั้นประเทศนี้ แต่ไส้ในจริงเป็นการระบายข้าวคุณภาพดีให้กับพวกพ้องในราคาถูกกว่าราคาตลาด ต่ำกว่าราคารับจำนำ เลวร้ายไปกว่านั้นไม่ได้ระบายข้าวแบบจีทูจีจริงอย่างที่กล่าวอ้าง สร้างกระบวนการ"กินแบบท้องป่อง กินกันตามน้ำกินกันเป็นทอดๆ"
ฉะนั้นไม่แปลกใจที่ซื้อแพงขายถูก (ไม่รู้ขายใคร) หากเป็นอย่างนี้แล้วจะหาเงินที่ไหน มาใช้หมุนเวียนรับจำนำข้าวที่เหลือ
จึงไม่แปลกใจที่วันนี้ชาวนาลุกขึ้นมาเรียกร้องเงินค่าข้าวของปี 2555/56 จำนวนหนึ่ง แต่ปี2556/57 อีกว่าแสนล้านบาท คำถามตอนนี้ถามว่ารัฐบาลจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายชาวนา ยิ่งกว่านี้ช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ ข้าวนาปรังอีก 6-7 ล้านตัน ออกสู่ตลาดจะทำอย่างไร?
การกล่าวอ้างขายข้าวจีทูจี เป็นแค่"ลมปาก"เห็นชัดกรณีที่มีการลงนามขายข้าว 1.2 ล้านตันให้กับเป่ยต้าฮวง เมื่อปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ตอนนี้กำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่โตในประเทศจีน เพราะการเซ็นสัญญาที่ว่านี้รัฐบาลจีนไม่ยอมรับว่าเป็นการซื้อขาย"จีทูจี"
เนื่องจากบริษัทที่เซ็นสัญญานั้น เป็นเพียงรัฐวิสาหกิจของมณฑลเฮยหลงเจียง จะมาเรียกว่าจีทูจีไม่ได้ หากเป็นจีทูจี ต้องมีการซื้อขายและเซ็นสัญญากับ บริษัท คอฟโก เท่านั้น ส่วนรัฐวิสาหกิจมณฑลอื่นหากมีการซื้อขายจะเรียกว่า"จีทูจี" ไม่ได้
ว่ากันว่าตอนนี้เป่ยต้าฮวง กำลังถูกรัฐบาลจีนเรียกตรวจสอบข้อเท็จจริง การทำสัญญาจีทูจีกับทางการไทยได้อย่างไร งานนี้ฟันธงข้าวล็อตนี้ 1.2 ล้านตัน"จีทูเจ๊ง"แน่นอน ซ้ำร้ายไปกว่านี้กำลังสร้างความหวาดระแวง การสร้างคอร์รัปชันข้ามประเทศไปแล้ว..
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต