จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
แต่ในช่วงนี้ ชาวบางขุนพรหมไม่ค่อยจะอยู่กันอย่างสงบสุขเท่าไรนัก ตั้งแต่ที่มีข่าวว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะเร่งเวนคืนที่ดินเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนต่อขยายช่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ให้เสร็จภายในสิ้นปี 2556 โดยมีข่าวว่าพื้นที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างสถานีและจุดขึ้นลงนั้นอยู่บริเวณ นับจากแยกบางขุนพรหมเป็นระยะทาง 300 เมตร และทางชุมชนได้มีการเจรจาให้ รฟม. ใช้พื้นที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยแทนเพื่อให้คนในพื้นที่จะได้รับผลกระทบ น้อยลง แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนจาก รฟม. ทำให้ในช่วงนี้หากใครผ่านมาทางถนนสามเสน บริเวณแยกบางขุนพรหมมาจนถึงแยกบางลำพูก็จะเห็นป้ายไวนิลที่มีข้อความแสดง ความรู้สึกของคนบางขุนพรหมต่อการสร้างรถไฟฟ้าติดอยู่เต็มไปหมด เช่น “พวกเราไม่ยอมย้ายเด็ดขาด เราเกิดที่นี่ จะขอตายที่นี่” หรือ “รฟม.อย่ารังแกประชาชน เราไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่ทำกิน” เป็นต้น |
||||
เรื่องแบบนี้ฉันคิดว่าถ้าบ้านใครไม่โดนเวนคืนก็คงไม่เข้าใจความ รู้สึก โดยเฉพาะคนที่อยู่อาศัยมานานย่อมมีความผูกพันเหนียวแน่นกับสถานที่ ยิ่งเป็นผู้สูงอายุด้วยแล้วก็ยิ่งน่าเห็นใจ แม้จะมีค่าชดเชยให้แต่ก็ไม่อาจทดแทนความผูกพันที่มีมายาวนาน และโดยส่วนมากค่าชดเชยนั้นก็เป็นราคาประเมินที่ต่ำกว่าความเป็นจริง นอกจากนี้การที่ภาครัฐบ้านเรามักจะทำอะไรไม่โปร่งใส ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านเขาไม่ไว้วางใจ จึงย่อมต้องถูกต่อต้านคัดค้านเป็นปกติวิสัย อย่างไรก็ดีในวันนี้ที่เรื่องของการเวนคืนที่ดินในย่านบางขุนพรหมยัง ไม่สรุปชี้ชัด ฉันจึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับบางขุนพรหมให้ดีขึ้นอีกหน่อย เพราะย่านนี้เป็นย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ และมีสถานที่สำคัญหลายแห่งที่น่าสนใจ |
||||
สำหรับวัดสามพระยานั้น แต่เดิมเรียกกันว่า “วัดบางขุนพรหม” ซึ่งตั้งตามชื่อของขุนพรหม น้องชายของหลวงวิสุทธิโยธามาตย์ นายช่างก่อสร้างและควบคุมการปฏิสังขรณ์พระพุทธบาทสระบุรีในสมัยพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยหลวงวิสุทธิโยธามาตย์มีนิวาสถานอยู่ที่บ้านลาน ได้ยกที่ดินบริเวณเหนือปากคลองบางลำพูซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของขุนพรหมน้องชาย ที่เสียชีวิตด้วยไข้ป่าสร้างเป็นวัดขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศล เรียกว่าวัดบางขุนพรหม ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่าย่านบางขุนพรหมสืบต่อมา ปัจจุบันนี้ทั้งชื่อและที่มาของชื่อบ้านลานไม่หลงเหลืออยู่แล้ว เหลือเพียงชื่อย่านบางขุนพรหมที่หลายๆ คนคุ้นหู ในวันนี้ฉันจะพาไปดูสถานที่สำคัญของย่านบางขุนพรหม เริ่มจาก “วัดสามพระยา” ซึ่งเป็นต้นกำเนิดชื่อย่านบางขุนพรหมกันก่อน อย่างที่เล่าไปแล้วว่าหลวงวิสุทธิ์โยธามาตย์ได้ยกที่ดินพร้อมทั้งบ้านเรือน ของขุนพรหมผู้เป็นน้องชาย อุทิศถวายเป็นวัดเพื่อเป็นผลบุญและเป็นอนุสรณ์แก่ขุนพรหมซึ่งเสียชีวิตไป และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 วัดบางขุนพรหมชำรุดทรุดโทรมลง พระยาราชสุภาวดี (ขุนทอง) พระยาราชนิกุล (ทองคำ) และพระยาเทพอรชุน (ทองห่อ) ซึ่งเป็นบุตรของน้องสาวคนสุดท้อง (พวา) ของหลวงวิสุทธิโยธามาตย์และขุนพรหม จึงพร้อมใจกันปฏิสังขรณ์วัดจนสำเร็จบริบูรณ์ แล้วน้อมเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 3 และพระองค์ได้โปรดเกล้าฯ รับเป็นพระอารามหลวง พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า "วัดสามพระยาวรวิหาร" |
||||
นอกจากวัดสามพระยาแล้ว ในย่านบางขุนพรหมยังมีวัดสำคัญอย่าง “วัดอินทรวิหาร” วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย เดิมเรียกว่าวัดไร่พริก แต่ต่อมาเปลี่ยนมาเรียกว่าวัดอินทรวิหารตามชื่อของ “เจ้าอินทร์” ชาวเวียงจันท์ที่อพยพมาอยู่บริเวณนี้และเป็นผู้บูรณะวัดแห่งนี้ ภายในวัดมีพระพุทธรูปสำคัญคือ พระพุทธรูปหลวงพ่อโต หรือ “พระศรีอริยเมตไตรย” ได้ริเริ่มสร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) เป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรขนาดใหญ่ สูงถึง 16 วา กว้าง 5 วา 2 ศอก บนยอดเกศประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปปางประทับยืนทรงบาตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย |
||||
แต่พูดถึงบางขุนพรหม หลายๆ คนคงนึกไปถึง “วังบางขุนพรหม” เป็นอย่างแรก โดยวังบางขุนพรหมนี้เป็นอัครสถานในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต สร้างขึ้นในปี 2442 ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากยุคบาโรกและรอกโกโกซึ่งโดดเด่นที่ ลวดลายปูนปั้นประดับอาคารที่งดงามอ่อนช้อยยิ่งนัก |
||||
บริเวณใกล้ๆ กับวังบางขุนพรหม เป็นที่ตั้งอีกหนึ่งวังเก่าแก่ คือ “วังเทวะเวสม์” ซึ่งเป็นวังที่รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ สร้างพระราชทานสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ เมื่อปี 2457 ตัวตำหนักใหญ่วังเทวะเวสม์ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ เป็นอาคารแบบยุโรป 3 ชั้น ศิลปะแบบนีโอคลาสสิค ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยเช่นกัน และได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงวิธีอนุรักษ์โบราณสถานวังบางขุนพรหมและวังเทวะเวสม์ |
||||
แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน แต่ฉันก็ขอเอาใจช่วยชาวชุมชนบางขุนพรหมให้ได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด และขอให้ทาง รฟม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างโปร่งใส คิดถึงประโยชน์สาธารณะมากกว่าประโยชน์ของนายทุน คนบางขุนพรหมจะได้ไม่ต้องวิตกกังวลจนนอนหลับไม่สนิทมาเป็นเดือนๆ อย่างที่ผ่านมา |
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,อะไหล่ victorinox,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit