จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
โดย : หนุ่มลูกทุ่ง | ||||
ปากน้ำที่ฉันว่านั้นก็คือเมืองปากน้ำ หรือ จ.สมุทรปราการ นี่เอง ที่ว่าเป็นปากน้ำก็เพราะเป็นเป็นทางออกของแม่น้ำเจ้าพระยาไปสู่ทะเลอ่าวไทย นั่นเอง และถ้าบอกว่าจะมาเที่ยวที่เมืองปากน้ำ ฉันคิดว่าใครๆ ก็คงอยากเห็นพระเจดีย์กลางน้ำเป็นแน่ แต่ต้องบอกกันไว้ก่อนว่า หากไปขับรถเที่ยวหาเจดีย์ที่อยู่กลางน้ำตอนนี้แล้วไม่มีทางเจออย่างแน่นอน เพราะนี่เป็นชื่อเรียกที่ติดปากชาวบ้านกันมาแต่ดั้งเดิม ซึ่งเป็นที่มาและเรื่องราวการสร้าง “องค์พระสมุทรเจดีย์” นั่นเอง |
||||
โดยพื้นที่ของสมุทรปราการในสมัยก่อนนั้น เป็นเมืองเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตัวเมืองเก่าจริงๆ นั้นอยู่ในบริเวณ อ.พระประแดง และมีชื่อเรียกในตอนนั้นว่าเมืองพระประแดง ใช้เป็นสถานที่พักของชาวต่างชาติที่มาติดต่อค้าขายกับชาวไทย เนื่องจากเป็นบริเวณปากอ่าว มีการเดินทางสัญจรออกทะเลได้ง่าย นอกจากจะมีพระราชดำริให้สร้างพระเจดีย์กลางน้ำแล้ว ก็ยังทรงพระราชทานนามพระมหาเจดีย์นี้ว่า “พระสมุทรเจดีย์” เนื่องจากมีพระราชประสงค์ให้เป็นศาสนสถานอันเป็นพระมหาเจดีย์คู่เมือง สมุทรปราการต่อไป แต่การก่อสร้างพระเจดีย์ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น ทำได้เพียงการถมศิลาเพิ่มฐาน ก็เสด็จสวรรคตไปเสียก่อน และพระสมุทรเจดีย์นั้นก็มาสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 |
||||
ถ้าถามว่าทำไมปัจจุบันไม่มีลักษณะของการเป็นเจดีย์กลางน้ำแล้ว ก็ต้องบอกว่าเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนแปลงไป ตะกอนดินต่างๆ ก็ทับถมกันมากเข้า จนทำให้ตลิ่งทางฝั่งขวาของแม่น้ำยื่นออกมาจนเชื่อมติดกับเกาะกลางน้ำ และทำให้พระสมุทรเจดีย์องค์นี้ไม่ได้อยู่กลางน้ำอีกต่อไป แต่ถึงไม่ใช่พระเจดีย์กลางน้ำ ความงดงามก็ยังไม่ได้จางหายไป สังเกตได้จากเมื่อยามที่เดินเข้ามาถึงบริเวณรอบๆ องค์พระสมุทรเจดีย์ จะมองเห็นความงดงามที่โดดเด่น ความขาวสะอาดขององค์พระเจดีย์ ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า และความเขียวขจีของต้นไม้และต้นหญ้า อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ริมน้ำเจ้าพระยาเป็นฉากหลัง |
||||
จากนั้นเดินลัดเลาะออกมาทางขวามือ ชมองค์พระสมุทรเจดีย์แล้วก็จะยังเห็นสิ่งก่อสร้างอีกหลายๆ อย่าง ตั้งแต่ หอระฆัง และ หอเทียน ที่อยู่ใกล้กับพระวิหารหลวง เก๋งจีน เป็นศาลารายเดิม ใช้เป็นศาลาที่พักที่สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมจีน และยังมี หลักผูกเรือ ลักษณะเป็นหลักศิลาแปดเหลี่ยมที่ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัวตูม อ้อมไปอีกด้านขององค์พระเจดีย์ จะเห็นอาคารทรงยุโรปที่เรียกว่า ตึกฝรั่ง หรือ ศาลาทรงยุโรป อาคาร หลังนี้เพิ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นศาลาโถง 5 ห้อง ก่อสร้างในลักษณะทรงยุโรปประตูโค้งมน ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ภายในมีปูนปั้นประดับประดาสวยงาม มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับการสร้างเมืองสมุทรปราการและการสร้างพระสมุทร เจดีย์ และที่ด้านในสุดประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นภาลัย ให้ได้ไปกราบสักการะกันด้วย |
||||
มาถึงองค์พระสมุทรเจดีย์ นอกจากจะมาสักการะองค์พระเจดีย์และพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัว เองแล้ว ก็อย่าลืมมาเดินเล่มรับลมเย็นริมแม่น้ำกันหน่อย เพราะบริเวณนี้เขาได้ทำการปรับปรุงพื้นที่ให้สามารถมาเดินชมทัศนียภาพรอบๆ ได้แล้ว |
||||
แต่สำหรับคนที่จะไปเที่ยวสมุทรปราการในวันเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ (13-14 ก.ค. 56) ฉันขอแนะนำให้แวะไปเที่ยวงาน “รำลึก 120 ปี วิกฤตการณ์ ร.ศ.112” ที่จะจัดขึ้น ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า อ.พระสมุทรเจดีย์ อยู่ไม่ไกลจากองค์พระสมุทรเจดีย์มากนัก ในงานมีกิจกรรมมากมายทั้งนิทรรศการ งานเสวนา การแสดงแสงสีเสียง ถ้าไปสักการะองค์พระสมุทรเจดีย์แล้ว บ่ายๆ เย็นๆ ก็แวะไปเที่ยวงานสักหน่อย จะได้สนุกไม่เสียเที่ยว |
||||
“องค์พระสมุทรเจดีย์” ตั้งอยู่ที่ บ้านเจดีย์ ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-19.00 น. การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว ไปตามเส้นทางถนนสุขสวัสดิ์ เมื่อถึงทางแยกตรงหอนาฬิกาของอำเภอพระสมุทรเจดีย์ เลี้ยวซ้ายไปตามถนน ตรงไปสุดทางจะเจอองค์พระสมุทรเจดีย์ ทางเรือโดยสาร นั่งเรือข้ามฟาก จากฝั่งปากน้ำที่ท่าเรือวิบูลย์ศรี-พระสมุทรเจดีย์ ค่าโดยสารเรือ 3 บาท รถโดยสาร สายที่ผ่านคือ สาย 20 |
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน