สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ต้านทุจริตหยุดคอร์รัปชั่น ?

ต้านทุจริตหยุดคอร์รัปชั่น ?

จาก โพสต์ทูเดย์

ต้านทุจริตหยุดคอร์รัปชั่น ?

น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรมวุฒิสภา

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2556 >> http://bit.ly/14OvvO7

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวระหว่างเป็นประธานการ ประกาศเจตนารมณ์ "เดินหน้าพัฒนาประเทศไทย โดยยึดหลักธรรมาภิบาล ของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี" เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2556 >> http://bit.ly/1axvQek


“อัมมาร” ชำแหละ “จำนำข้าวทุกเมล็ด” พาชาติล่มจม แนะให้ตื่นจากภวังค์ของคนดูไบได้แล้ว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

“อัมมาร” ชี้นโยบายจำนำข้าวทุกเมล็ดทำลายอนาคตส่งออกข้าวไทย ยอมรับ 2 ปีที่่ผ่านมาไทยระบายข้าวไม่ได้เพราะข้าวไทยเสื่อมคุณภาพ แนะทางออกรัฐต้องแกล้งลืมสต๊อก 17 ล้านตันแล้วเอาข้าวใหม่ที่่เข้าโครงการไปเสนอขาย พร้อมปลุกให้คนไทยตื่นจากภวังค์ของคนดูไบได้แล้ว เพราะการเก็บข้าวไม่ได้ทำให้เรานำราคาในตลาดโลกได้ ผูกขาดไม่ได้เพราะข้าวไม่ใช่มือถือ เก็บไว้ 2 ปีข้าวก็เน่าแล้ว
        นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวในงานสัมมนาทางออกระบบอุตสาหกรรมข้าวไทยสู่การแข่งขันตลาดโลก จัดโดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจการพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา โดยระบุว่า ทางออกของอุตสาหกรรมข้าวไทยคือต้องรื้อฟื้นระบบการขายข้าวแบบเก่าที่่ระบบ รับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาลได้ทำลายลงไป เนื่องจากระบบเดิมที่่ทำให้ข้าวไทยได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพจากตลาดโลกมี กระบวนการคัดเลือกข้าวที่่ได้คุณภาพดีอยู่แล้ว ซึ่งต่างจากระบบของรัฐที่่จำนำข้าว และนำข้าวมาเก็บไว้จนเสื่อมคุณภาพ
       
       “ยอมรับว่า 2 ปีที่ผ่านมาไทยระบายข้าวไม่ได้ ส่งออกไม่ได้ เพราะบางตลาดเห็นว่าคุณภาพข้าวไทยเสื่อมลงเพราะมีการเก็บข้าวไว้นานเกินไป ดังนั้นทางออกของการขายข้าวและรักษาตลาดข้าว รัฐบาลต้องแกล้งลืมสต๊อกข้าว 17 ล้านตันไปเลย แล้วเอาข้าวใหม่ที่่เข้าโครงการไปเสนอขาย จากนั้นค่อยหาทางระบายข้าวที่่เสื่อมคุณภาพออกไปภายหลังซึ่งต้องใช้เวลา ระบายอีกนานมาก”
       
       นายอัมมารกล่าวว่า ตลาดข้าวในอนาคตจะแข่งขันกันในเรื่องคุณภาพข้าวสูงขึ้น ดังนั้น การที่่รัฐบาลเก็บข้าวไว้ในโครงการทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพจึงเป็นการทำลาย อนาคตการส่งออกข้าวไทย และสร้างความเสียหายแก่ห่วงโซ่การผลิตข้าวทั้งระบบ
       
       “เราต้องตื่นจากภวังค์ของคนดูไบได้แล้ว การเก็บข้าวไม่ได้ทำให้เรานำราคาในตลาดโลกได้ ผูกขาดไม่ได้เพราะข้าวไม่ใช่มือถือ เก็บไว้ 2 ปีข้าวก็เน่า”
       
       นอกจากนี้ สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดของรัฐบาลคือการทำให้ราคาข้าวเปลือกพุ่งไปสูงถึง 30-40% แต่ข้าวสารยังมีราคาเท่าเดิม เพราะนโยบายจำนำข้าวที่รัฐบาลรวบรัดเอาข้าวมาอยู่กับตัวเองทำให้ราคาข้าวสาร นิ่ง แต่ข้าวเปลือกแพง จึงอาจต้องพิจารณาให้ราคาข้าวสารแพงขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวมีผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นชาวนา พ่อค้า หรือผู้บริโภค
       
       นายอัมมารกล่าวว่า มีความรู้สึกว่าอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่อาศัยมานานคือบ้านเศรษฐกิจข้าว ขณะนี้มีความรู้สึกเกิดพายุใหญ่ บ้านถูกทำลาย โดยข้าวส่วนใหญ่ที่บริโภคกันอยู่ไม่ได้มาจากชาวนาที่ยากจน แต่มาจากชาวนาร่ำรวย หรือระดับปานกลาง ประมาณ 20% ข้าวที่เข้าโครงการรับจำนำจึงมาจากชาวนาฐานะดี ซึ่งการที่เราจะบอกแก้ปัญหาความยากจนโดยการขึ้นราคาสินค้าข้าวนั้นเป็นคนละ เรื่อง และการแก้ไขปัญหายากจนโดยการขึ้นราคาสินค้าข้าวเป็นการแก้ไขปัญหาที่ผิดพลาด ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น 2 ปีที่ผ่านมาเป็นการหากินของพวกที่อาศัยการเมืองกอบโกยหากิน
       
       “ดูตลาดส่งออกข้าวของเรา พ่อค้าที่รัฐบาลให้อำนาจผูกขาดไม่มีปัญญาส่งออกจึงทำให้การส่งออกต่ำลง และทำให้ข้าวตกอยู่ในมือรัฐบาล และในอนาคตเมื่อเอเชียมีราคาข้าวดีขึ้นจะทำให้คนสนใจคุณภาพข้าว ส่วนไทยก็ต้องค่อยรื้อฟื้นระบบค้าข้าวแบบเดิมที่สร้างคุณค่าให้ข้าวไทยอย่าง แท้จริง”
       
       อย่างไรก็ตาม มองว่าการระบายข้าวรัฐบาลต้องทำให้โปร่งใส เลิกวิธีการที่ให้เอกชนแค่ไม่กี่่รายเข้ามาผูกขาด เนื่องจากพิสูจน์แล้วว่าล้มเหลวในการระบายข้าว และทำให้มีการขาดทุนจำนวนมาก รัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อลดความเสียหายลง
       
       นายอัมมารกล่าวสรุปว่า ทางออกของปัญหาในระยะสั้นนั้นพูดลำบาก เพราะรัฐบาลกำลังหันซ้ายหันขวาหาทางออกจากนโยบายของตัวเอง เปลี่ยนวันต่อวันเพื่อแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ ซึ่งข้อเท็จจริงเมื่อมองไป 2-3 ปีข้างหน้าจะต้องเจ็บปวด จึงขอฝากบอกรัฐบาลว่าจะทำอะไรก็ต้องคิดให้ดีเพราะจะสร้างความเจ็บปวด ซึ่งความเจ็บปวดดังกล่าวต้องไปที่พ่อค้าข้าวเป็นหลัก ขณะที่ชาวนาอาจจะรับภาระบางส่วน


ป.ป.ช.ลุยสอบโกงจำนำข้าว เรียก “สุภา” ให้ข้อมูลทุจริต ตัวเลขขาดทุน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ป.ป.ช.เดินเครื่องสอบทุจริตจำนำข้าว เตรียมเรียก “สุภา ปิยิจิตติ” ให้ตัวเลขขาดทุน รวมถึงปัญหาการทุจริตในภาพรวม แฉพาณิชย์ยังกั๊กข้อมูลขาดทุน พร้อมร่วมมือผู้ตรวจการฯ ลงพื้นที่สอบโรงสี โกดัง หาข้อมูลสวมสิทธิ ปัญหาข้าวเน่า คาดสรุปได้ใน 1-2 เดือน เผยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีทุจริตจัดซื้อเรือและ รถดับเพลิงของ กทม.6 ส.ค.นี้
        นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีโครงการรับจำนำข้าว กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีดังกล่าวว่า เตรียมเชิญ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว มาให้ข้อมูลประเด็นเกี่ยวกับการขาดทุนของโครงการว่า มีตัวเลขชัดเจนอย่างไร รวมถึงปัญหาการทุจริตในภาพรวม เพราะคณะอนุกรรมการฯ ได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องการรักษาวินัยการเงินการคลังด้วย นอกเหนือจากการตรวจสอบการทุจริต
       
       นายวิชากล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ให้ความร่วมมือส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช.มากขึ้น แต่มีบางข้อมูลที่ ป.ป.ช.ยังต้องการ คือ ข้อมูลการขาดทุน ที่ ป.ป.ช.ได้ข้อมูลบางส่วนจากกระทรวงการคลังเท่านั้น ทั้งที่ควรได้มาจากกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง ขณะเดียวกัน ป.ป.ช.ได้รับความร่วมมือจากนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีและโกดังเก็บข้าวทั่วประเทศ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการลักลอบนำข้าวไปสวมสิทธิและปัญหาข้าวเน่าว่า เกิดจากการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ คาดว่าภายใน 1-2 เดือน ป.ป.ช.น่าจะได้รับข้อมูลในส่วนนี้
       
       นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เตรียมศึกษาคำพิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีการทุจริตจัดซื้อเรือและรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร ที่จะมีการพิพากษาในวันที่ 6 ส.ค.นี้ เพราะเป็นคดีสำคัญ เนื่องจากการจัดซื้อเรือและรถดับเพลิงเป็นในลักษณะรัฐต่อรัฐเหมือนการซื้อ ขายข้าวกับต่างประเทศของรัฐบาล ดังนั้นผลของคำพิพากษาที่จะออกมา อาจมีนัยสำคัญต่อการไต่สวนของ ป.ป.ช.ด้วย ยืนยันว่า ป.ป.ช.ทำงานด้วยความเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติกับฝ่ายใดหรือพรรคใด


ยันทุจริตข้าวของอคส.เน่าในโกดังร้างที่พิจิตร

พบข้าวเน่าในโกดังร้าง จำนวนประมาณ 5,000 ตัน จ.พิจิตร เผยเป็นข้าวขององค์การคลังสินค้า แต่เกิดปัญหาทุจริตเมื่อปี2548

ผู้สื่อข่าวรายงาน จาก จ.พิจิตร ว่า พบข้าวข่าวเน่าในโกดังร้าง โดยยังมีป้ายกระดาษหลงเหลือไว้ว่าเป็นข้าวตามโครงการรับจำนำปี 2548/49 ที่เสื่อมคุณภาพ จำนวนราว 5,000 ตัน ถูกเก็บไว้ในโกดังของตลาดกลางข้าวและพืชไร่ จ.พิจิตร ซึ่งเป็นของบริษัทเอกเกษตรคลังสินค้าจำกัด เลขที่ 43 หมู่ที่ 6 ถนนพิจิตร-กำแพงเพชร อ.เมือง จ.พิจิตร โดยสภาพข้าวเกิดการเน่าเสีย ไม่มีประตูเปิดปิด มีข้าวเสื่อมสภาพ คล้ายข้าวท่อน หรือปลายข้าว ที่แปรรูปแล้วอยู่ในบิ๊กแบ๊กขนาดใหญ่ โดยมีถุงจำนวนมากชำรุดทำให้ข้าวร่วงกองกับพื้น ถูกน้ำฝน และขึ้นราจำนวนมาก โดยภายในโกดังมีชาวบ้านรายหนึ่งทำหน้าที่เฝ้าเวรยาม โดยบอกเพียงว่าเป็นข้าวของ อคส.ที่เก็บไว้นานแล้ว และตนรับจ้างเฝ้า ไม่ให้ใครมาลักข้าวเท่านั้น
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าโกดังและที่ดินดังกล่าวเป็นของ บริษัทสิงห์โตทองไรซ้ อินเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งได้ประมูลทรัพย์สินมาจากธนาคารหลังบริษัทเอกเกษตรคลังสินค้าจำกัด ถูกยึดทรัพย์และฟ้องล้มละลาย แต่ภายในยังมีข้าวที่มีปัญหา ซึ่งข้าวมีจำนวนไม่ครบและเสื่อมคุณภาพอยู่ภายใน แต่ทางบริษัทสิงห์โตทองไรซ้ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้องการใช้พื้นที่หลังจากที่ซื้อพื้นที่และทรัพย์สินมาในราคา 80 ล้านบาท

โดยจากการตรวจสอบเบื้อต้น พบว่าเป็นข้าวขององค์การคลังสินค้า (อคส.) แต่เกิดปัญหาทุจริตเมื่อปี 2548 เนื่องจากการตรวจสอบพบว่าข้าวหายไป และมีความพยามที่จะทำลายข้าวด้วยการเผา เพื่อทำลายหลักฐาน แต่ไฟไหม้ไม่หมด ทำให้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ด้านนายอุดม กัลป์ยาวรรณ เจ้าหน้าที่ อคส. พื้นที่จังหวัดพิจิตร เปิดเผยและให้ข้อมูลสับสน โดยครั้งแรกแจ้งว่า ได้ขายข้าวทั้งหมดให้กับโรงสีแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรีไปแล้ว ในขณะนี้อยู่ระหว่างรอส่งมอบ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะส่งมอบได้เมื่อใด โดยการซื้อขายก็จะซื้อขายกันตามสภาพของข้าว

แต่เมื่อผู้สื่อข่าวจะขอดูหลักฐานว่าผู้ใดเป็นผู้ซื้อข้าว เนื่องจากสภาพของข้าว ไม่น่าจะขายได้ นายอุดม กลับบอกว่า เป็นข้าว ที่อคส.ส่วนกลาง เป็นผู้ขาย ตนเองไม่รับรู้เพียงแต่หากใครถือใบออเดอร์มาขอรับข้าวก็จะส่งมอบให้เท่านั้น โดยมีข้าวที่หลงเหลือจำนวนประมาณ 5,000 ตัน


ปู” ท้า “สุภา” เขียนรายละเอียดพิสูจน์โกงจำนำข้าว ลั่นไม่มียุบสภา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

นายกฯ และรมว.กห.บินไปโปแลนด์-ตุรกี ยันพร้อมแจง ป.ป.ช.ถอดกู้จัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน โยน “พงศ์เทพ” ดูทำอะไรได้บ้าง ท้ารองปลัดคลังเขียนรายละเอียดพิสูจน์โกงจำนำข้าว ลั่นพร้อมฟัน โบ้ยทีมตรวจสต๊อกสรุปขาดทุน ปัดคืนจำนำหมื่นห้ากลับไปกลับมา อ้างดูเหตุการณ์ โอ่เพิ่งตั้ง ครม.ใหม่ไม่มีหรอกยุบสภา สวนสื่อซักพรรคกระเพื่อมอะไร ไล่เรื่องข้าวไปถามพาณิชย์
         วันนี้ (3 ก.ค.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 12.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนประเทศโปแลนด์และประเทศตุรกี ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะใน เรื่องการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทว่า คงต้องว่าไปตามขั้นตอน เรายินดีให้ข้อมูลและชี้แจง ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำให้โครงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลหยุดชะงักหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราคงต้องรอเรื่องศาลปกครองอีกทีว่าจะอย่างไรและเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) คณะรัฐมนตรีมีมติให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูว่าอะไรบ้างในส่วนที่ภาครัฐทำได้ หรืออะไรที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครอง ต้องดูตรงนั้นมากกกว่า
       
       เมื่อถามว่า น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตทุกขั้นตอนตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับ บน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ให้ น.ส.สุภาพิสูจน์ออกมาเป็นรายละเอียดเลยดีกว่าหรือไม่ วันนี้ต้องเรียนว่าสื่อมวลชนก็เห็นการตรวจสต๊อกเราตรวจพร้อมกันทั่วประเทศ 2,000 กว่าโรงสี ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเราบ้าง ซึ่งจากการตรวจทั้งหมดจุดที่เจอประมาณ 26 จุด เราก็รอขั้นตอนของตำรวจในการสืบค้น ถ้ามีหลักฐานการทุจริตทุกจุดก็เอาหลักฐานมา ตนพร้อมที่จะดำเนินคดีและพร้อมตรวจสอบให้หมด ขอเป็นอย่างนั้นดีกว่า เพราะจริงๆ เราเองพูดภาพรวมอาจทำให้คนกังวล ถ้าพูดเป็นรายละเอียดเลยว่ามีจุดไหนที่ตรวจสอบแล้วมีประเด็น เราก็พร้อมให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจ ถ้าผิดก็พร้อมดำเนินคดี ตรงนั้นพร้อมอยู่แล้ว
       
       เมื่อถามว่า เรื่องการขาดทุนที่มีมากกว่า 2.2 แสนล้านบาท ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้เราตรวจสต๊อกจริง ต้องให้คณะกรรมการตรวจสต๊อกเป็นผู้สรุปดีกว่า การตรวจสื่อมวลชนก็เห็น ขณะนี้ทางคณะกรรมการจะเรียกตัวเลขจริง ฉะนั้นตัวเลขเราดูด้วยตาหมดแล้ว ไม่ใช่ตัวเลขที่เกิดจากการคำนวน ตัวเลขจะเกิดจากการลงตรวจโรงสีทุกโรง วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมื่นกว่านายที่ลงไปน่าจะใช้ข้อมูลนั้นมากกว่า ขอให้คณะกรรมการได้สรุปมาอย่างเป็นทางการดีกว่า
       
       เมื่อถามว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์โจมตีกรณีที่รัฐบาลเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการนโยบาย ข้างแห่งชาติ หรือ กขช.ที่ให้กลับไปรับจำนำข้าวในราคา 15,000 บาทต่อตันเหมือนเดิม เหมือนเป็นนโยบาบไม้หลักปักขี้เลน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อันนี้แล้วแต่ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ตรงนั้น แต่ขอเรียนเหตุผลที่คณะรัฐมนตรีรับทราบตามประเด็นที่ กขช.นั้นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียนว่าเรื่องของวินัยการเงินการคลังเราก็รักษา เพราะจากตอนแรกได้ตัวเลขมาเราจำเป็นต้องรักษาสมดุล 4 เรื่อง แต่ระหว่างที่ดำเนินงานไปหน่วยงานก็มีการปรับปรุงเรื่องขั้นตอนการควบคุม การนำเข้าและมีจำนวนที่มา ข้าวที่ปลูกแล้วเหลือสต๊อกเท่าไรก็มีความชัดเจนเรื่องรายละเอียดทำให้คณะ กรรมการสามารถพิจารณาได้ ก็ไม่ทำให้เราเสีย 4 สมดุลนั้นไป ขณะเดียวกันเราก็ได้ดูแลชาวนาด้วยเพื่อให้เกิดสมดุลทั้ง 4 เรื่อง ไม่ได้เรียกว่ากลับไปกลับมาหรอก เราต้องดูตามเหตุการณ์ทั้งหมด อนาคตก็ต้องดูตามสมดุลเหมือนเดิมว่าราคาตลาดโลกเป็นอย่างไรและควรจะมาเท่าไร หากราคาตลาดโลกดีขึ้นอาจจะปรับขึ้นก็ได้ก็ต้องดูตามสภาวการณ์
       
       เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมองรัฐบาลเตรียมการยุบสภา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “โอ้ย...เพิ่งประกาศคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขอให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทำงานก่อนดีมั้ย ไม่มียุบสภาหรอก” เมื่อถามว่า ในพรรคเพื่อไทยมีแรงกระเพื่อมหลังปรับคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีย้อนถามว่ากระเพื่อมอะไร ความจริงแล้วเป็นความคิดเห็นมากกว่า เราเองเชื่อว่าสมาชิกในพรรคก็คงจะเข้าใจ เพราะทุกท่านก็ตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานและเราก็น้อมรับทุกท่าน จริงๆ ทุกคนอยากช่วยบ้านเมือง ก็ต้องอยูที่บทบาทว่าเราจะช่วยกันตรงไหนอย่างไร แต่เชื่อว่าเราเองพูดคุยกันได้ เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจหรือไม่ว่าเรื่องรับจำนำข้าวจะไม่สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พอแล้ว เรื่องข้าวเยอะแล้ว ไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บ้าง


'วราเทพ'อัด'สุภา'ส่งหลักฐานทุจริตจำนำข้าว

วราเทพ"ซัด"สุภา"ให้ส่งหลักฐานทุจริตจำนำข้าวไปดำเนินคดี โยน"นิวัฒน์ธำรง"เปิดตัวเลขจำนำข้าว

นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรมช.เกษตรฯ กล่าวถึงกรณี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวระบุว่ามีการทุจริตทุกขั้นตอนว่ายังไม่ได้คุยกับน.ส.สุภา ว่าที่ออกข่าวตรงกับที่เขาพูดทุกเรื่องหรือไม่ หรือเป็นการแปลความต่างกัน ในส่วนการทุจริตทุกขั้นตอนเขายังไม่เคยพูดให้ตนฟัง หรือในรายงานอาจไม่ได้เขียนเป็นคำพูดหนักแน่นขนาดนี้ สำหรับการลงทะเบียนแจ้งเกินจริงก็มีการพูดคุยมาตลอด และมีการดำเนินคดีกับผู้ทำผิดในทุกครั้ง เพียงแต่จำนวนอาจไม่มาก

ดังนั้นจึงต้องมาดูที่แจ้งเกิน ซึ่งเราก็ได้พยายามประชาสัมพันธ์ และวางมาตรการให้ดำเนินการตามจริง ทั้งนี้ที่คิดว่าตัวเลขที่เราปรับลดราคาลงมา และกลับไปที่เดิม ก็มีประเด็นนี้เหมือนกัน แต่ว่าการแจ้งของเกษตรกรจำนวนที่เหลือ 2 แสนกว่าราย 2 ล้านกว่าตัน มันจะเป็นจริง เราจึงพิจารณากลับมาใช้ราคาเดิม ก็หวังว่าจะไม่มีการแจ้งเกิน ไม่อยากจะเรียกว่าเกษตรกรทุจริตเลย ต้องไปดูว่าขั้นตอนในการแจ้ง เจตนาหรือการดำเนินการแจ้ง มันสามารถที่จะปรับปรุงให้เกิดความชัดเจน ระหว่างผู้แจ้งกับกรรมการได้หรือไม่ จะทำให้ทุกอย่างกระชับ และชัดเจนขึ้น ตรงไปตรงมา

"ถ้าคุณสุภามีหลักฐานไม่สามารถเก็บไว้ได้ เขาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่ที่ต้องนำหลักฐานเหล่านั้นมาแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินคดี แต่ถ้าพูดลอยๆ ใครๆ ก็พูดได้ ซึ่งผมสันนิษฐานว่า เขาเคยเห็นว่ามีการดำเนินคดี แล้วก็คาดการณ์ว่ากระบวนการนี้มันมีช่องว่างเกิดขึ้นในการทุจริตได้ พอพูดออกมาแบบนี้ ก็กลายเป็นส่งผลกระทบว่า ทั้งโครงการนี้มีการทุจริตจนรับไม่ได้เลย แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ต้องดำเนินการไป อะไรที่จับไมได้ ก็ต้องจับให้ได้ อะไรที่ป้องกันได้ ก็ต้องรีบไปป้องกัน"นายวราเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่กระทรวงพาณิชย์ จะเปิดเผยตัวเลขจำนวนข้าวที่ระบายได้ ขายไปให้ใคร ได้หรือไม่นั้น นายวราเทพ กล่าวว่า ต้องไปถามนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ว่าเมื่อลงไปดูแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งตนคิดว่าคำถามนี้ให้นายนิวัฒน์ธำรงตอบจะเหมาะสมที่สุด

ส่วนโครงการรับจำนำข้าวจะมีผลกระทบกับรัฐบาลหรือไม่นั้น นายวราเทพ กล่าวว่า ข่าวเรื่องนี้ หลายคนพอฟังแล้วว่ามีการทุจริตก็จะมีความเชื่อมากกว่าไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นแล้ว รัฐบาลพยายามทุกอย่างที่จะอธิบายขั้นตอนที่ปฏิบัติที่มันเกิดขึ้น และรัฐบาลก็พยายามวางมาตรการ ก็ไม่ได้ไปช่วยผู้ที่กระทำความผิดใดๆ


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : ต้านทุจริต หยุดคอร์รัปชั่น

view