สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

UN ตื่นหนุนมันสำปะหลัง ปลูกวิธีใหม่ในเวียดนามผลผลิตต่อไร่ 5 เท่า

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ASTVผู้จัดการออนไลน์/เอเอฟพี -- องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization) แห่งได้ออกสนับสนุนการปลูกมันสำปะหลัง โดยระบุว่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจสำหรับเลี้ยงดูประชากรแห่งศตวรรษ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและอาจจะเพิ่มผลผลิตได้ถึง 400% เทียบกับในปัจจุบัน ซึ่งการทดลองปลูกแผนใหม่ในหลายประเทศรวมทั้งเวียดนามได้ผลดีมาก สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน
       
       องค์การนี้กล่าวว่าตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมาทั่วโลกสามารถเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังได้ถึง 60% และวิธีการปลูกแบบใหม่ที่เรียกว่า Save and Grow โดยปลูกหมุนเวียนกับพืชชนิดอื่นๆ เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมและได้ผลผลิตสูงขึ้น
       
       การทดลองปลูกในเวียดนามพบว่าเกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตได้จาก 8.5 ตันเป็น 36 ตัน หรือเกือบ 5 เท่าตัว
       
       เทคนิค Save and Grow นี้ เป็นการปลูกโดยลดการใช้สารเคมี ลดผลกระทบต่อสภาพดินจากการไถแบบทั่วไป และการปลูกพืชหมุนเวียนกับมันสำปะหลังทำให้ลดการใช้ยาฆ่าแมลงลงได้ การทดลองด้วยวิธีใหม่นี้ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและโคลัมเบีย ทำให้ได้ผลผลิต "ดีอย่างน่าตื่นเต้น" เอฟเอโอกล่าว
       
       หัวมันสำปะหลังอุดมด้วยคาร์โบไฮเดรตและใบมีโปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินเอและดี ซึ่งสามารถเป็นทางเลือกใช้แทนข้าสาลีหรือข้าวโพดได้ ส่วนอื่นๆ ของต้นมันยังใช้เป็นอาหารสัตว์ การทดลองยังพบว่าสัตว์เลี้ยงที่กินอาหารทำจากมันสำปะหลังต้านทานโรคได้ดี ขึ้น เอฟเอโอกล่าว
       
       มันสำปะหลังจึงมีศักยภาพที่ใหญ่โตมาก และสามารถเปลี่ยนสภาพ “จากการเป็นอาหารของคนจนให้เป็นพืชอาหารแห่งศตวรรษที่ 21 ได้" เอฟเอโอระบุในคำแถลงที่ออกจากสำนักงานใหญ่ในกรุงโรมประเทศอิตาลี
       
       "ด้วยวิธี Save and Grow ประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ สามารถเลี่ยงความเสี่ยงจากการปลูกแบบไม่ยั่งยืนได้ ในขณะที่พบว่ามันสำปะหลังมีศักยภาพที่จะให้ผลผลิตได้สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความหิวโหยและลดความยากจนในเขตชนบทลงได้" เอฟเอโอกล่าว
       
       ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มันสำปะหลังได้เป็นสินค้าส่งออกสำคัญ รายการหนึ่งของไทยในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ในอนุภูมิภาคนี้ยังมีการปลูกอย่างแพร่หลาย บริษัทของไทยหลายแห่งกำลังขยายการปลูกเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
       
       มันสำปะหลังปลูกกันแพร่หลายในจังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันตกเฉียง เหนือกัมพูชาใกล้กับชายแดนไทย ตั้งแต่ จ.บ้านใต้มีชัย (Banteay Mean Chey) พระตะบอง อุดรมีชัย เสียมราฐและ จ.พระวิหาร
       
       สื่อของทางการพม่าเคยรายงานเกี่ยวกับการขยายเนื้อที่ปลูกมันสำปะหลังนับหมื่นๆ เฮกตาร์ในเขตตะนาวศรี ทางตอนใต้ของประเทศ
       
       ปัจจุบันบริษัทลาว-อินโดไชน่ากรู๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นครเวียงจันทน์ลาว เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในประเทศ กลุ่มนี้เพียงกลุ่มเดียวมีเนื้อที่ไร่มันในโครงการถึง 13,500 เฮกตาร์ (กว่า 84,000 ไร่) ส่วนใหญ่อยู่ในแขวงภาคกลางคือ แขวงเวียงจันทน์ บอลิคำไซ และในเขตนครเวียงจันทน์ และมีโรงงานผลิตแป้งมันขนาด 2,500 ตันต่อวันอีกด้วย สำนักข่าวสารปะเทดลาวรายงานก่อนหน้านี้
       
       นอกจากนั้น บริษัทจากประเทศไทยแห่งหนึ่งได้เซ็นบันทึกช่วยความจำกับรัฐบาลลาวในปี 2554 เข้าสำรวจพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง อ้อยและปาล์มน้ำมันในเขตเมืองหินเหิบ แขวงเวียงจันทน์
       
       ส่วนในเวียดนาม มันสำปะหลังได้เป็นพืชเศรษฐกิจสำหรับส่งออกที่ทำรายได้ในอันดับต้นๆ มาหลายปี ส่วนหนึ่งยังส่งป้อนโรงงานผลิตอาหารสัตว์หลายแห่งในประเทศ และแป้งมันยังเป็นส่วนประกอบของอาหารคาวหวานที่ได้รับความนิยมหลายชนิด ทำให้ผลผลิตจากหัวมันเป็นที่ต้องการออย่างสูง.


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : UN ตื่นหนุน มันสำปะหลัง ปลูกวิธีใหม่ เวียดนาม ผลผลิตต่อไร่ 5 เท่า

view