จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เพิ่งผ่านเทศกาลแห่งความสุข หลายคนก็คงจะได้ไปเที่ยวชาร์จแบตเตอรี่กันมาเต็มที่แล้ว และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในปีนี้ก็ต้องยกให้จังหวัดเลย และเชียงคาน เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหวังจะได้ไปสัมผัสอุณหภูมิความหนาวเย็น ของอากาศ และอาหารมื้อเช้าที่นักท่องเที่ยวไปเชียงคานจะต้องลิ้มลองก็ต้องยกให้กับ เมนูปาท่องโก๋ยัดไส้ สูตรของลุงมุข .. “นายประมุข โมปิ่น” |
ลุงมุขเล่าให้ฟังว่า ที่มาของปาท่องโก๋ยัดไส้เกิดขึ้นมาจาก เดิมลุงขายปาท่องโก๋เหมือนกับคนอื่นๆ แต่เมื่อปี 2537 ต้องส่งลูกมาเรียนกรุงเทพฯ ถึง 3 คน ค่าใช้จ่ายของลูกๆ แต่ละคนค่อนข้างสูง ลุงก็เลยหาวิธีว่าจะทำอย่างไรจึงจะเพิ่มรายได้ เพื่อให้เพียงพอ เป็นที่มาของแนวคิดการเพิ่มยอดขายปาท่องโก๋ ด้วยการคิดสูตรปาท่องโก๋ยัดไส้ขึ้นมา |
โดยจุดเริ่มต้นมาจากเห็นว่าซาลาเปาทำไมยังมีไส้ได้ และปาท่องโก๋ที่มีมานานกว่า 200 ปีน่าจะมีไส้ได้ จึงได้ลองนำแป้งปาท่องโก๋มาห่อไส้ เริ่ม แรกทำไส้หมูสับผักรวม หลังจากทดลองทำจนได้สูตรลงตัวจึงนำไปให้พ่อค้า แม่ค้าในตลาดเชียงคานได้ลองชิมดู ซึ่งหลายคนได้ชิมก็ชื่นชอบ และให้ลุงมุขทำขาย จึงได้เป็นที่มาของ “ลุงมุข ปาท่องโก๋ยัดไส้” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 10 ไส้ทั้งคาว และหวาน ประกอบด้วย ไส้ยอดฮิต หมูสับผักรวม หมูแดง หมูสับธรรมดา หมูสับไข่เจียว ไส้ทะเล ส่วนไส้หวาน เช่น ไส้กล้วย สังขยา ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ เป็นต้น |
|
นายประมุข โมปิ่น เจ้าของร้าน |
|
|
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ปาท่องโก๋ยัดไส้กลายเป็นของดี ของเด่น ของเมืองเชียงคาน นัก ท่องเที่ยวมาเที่ยวเชียงคานก็ต้องแวะมากินปาท่องโก๋ยัดไส้ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ทำปาท่องโก๋ยัดไส้ขายเพิ่มขึ้นอีกหลายราย มีทั้งที่ทำขึ้นมาในแบบฉบับของตัวเอง และพ่อค้าคนกลางที่รับของลุงมุขไปขายต่อ ซึ่งมีทั้งพ่อค้า แม่ค้าในพื้นที่ รวมไปถึงคนที่สนใจมาขอเรียนสูตรเทคนิคการทำ โดยลุงมุขจะเปิดสอนคอร์สละ 30,000 บาท เรียน 3 วัน หรือตามที่ผู้เรียนสะดวก เพราะบางคนก็เรียนแค่สองวัน ส่วนผู้เรียนจะเรียนและไปเปิดร้านเป็นแบรนด์ของตัวเองก็ได้ จนถึงขณะนี้มีผู้เรียนไปแล้วรวมทั้งสิ้น 5 ราย |
ลุงมุขบอกกับทีมงานว่า เทคนิคของปาท่องโก๋ยัดไส้ หรือปาท่องโก๋ตัวเล็กของลุงอยู่ที่ แป้งและส่วนผสมของแป้งที่เชื่อว่ายังไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบ เพราะปาท่องโก๋ของลุงไม่ได้ขายดีเฉพาะปาท่องโก๋ยัดไส้ ปาท่องโก๋ตัวเล็กที่ลุงทำมานานกว่า 30 ปีก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเช่นกัน ส่วนยอดขายต่อวัน ถ้า เป็นช่วงเทศกาลขายได้มากกว่า 600 ชิ้นสำหรับปาท่องโก๋ยัดไส้ ส่วนปาท่องโก๋ตัวเล็กยอดขายก็ไม่แพ้กัน วันหนึ่งประมาณ 500 ตัว ส่วนวันธรรมดาก็ขายได้ประมาณ 300-400 ชิ้น ยอดขายใกล้เคียงกันทั้ง สองอย่าง โดยจะเปิดขาย 2 เวลา ตั้งแต่ตี 3 ไปจนถึง 10 โมงเช้า และรอบบ่ายตั้งแต่บ่าย 2 ไปจนถึง 2 ทุ่ม สำหรับลูกค้าที่มากินตอนเช้าไม่ทันก็จะมากินตอนเย็น ค่ำแทน |
สำหรับการกินปาท่องโก๋ยัดไส้จะกินคู่กับน้ำจิ้ม คล้ายกับน้ำจิ้มเต้าหู้ทอด ลูกค้า ส่วนใหญ่มักจะมากินที่ร้าน เพราะที่ร้านเป็นร้านนั่งกินได้ ไม่ได้มีเพียงแค่ปาท่องโก๋ แต่ทางร้านยังมีเครื่องดื่มร้อน อย่างน้ำเต้าหู้ กาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆ ด้วย และด้วยเชียงคานเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ปัจจุบันแม้ไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอด ทำให้ร้านลุงมุขลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว ส่วนราคาขาย ปาท่องโก๋ยัดไส้ขายชิ้นละ 30 บาท และ เนื่องจากการทำปาท่องโก๋ยัดไส้ต้องใช้เวลาทอดนานกว่าปาท่องโก๋ตัวเล็ก ดังนั้นลุงมุขก็เลยจะทอดปาท่องโก๋ทิ้งไว้ แต่จะใส่ไว้ในตู้เก็บความร้อนเหมือนตู้อบที่ขายกะหรี่ปั๊บ |
นอกจากนี้ ลุงมุขยังได้ทำส่งขายทางไปรษณีย์ สำหรับคนต่างจังหวัด หรือคนกรุงเทพฯ ที่ ติดใจในรสชาติของปาท่องโก๋ยัดไส้สามารถสั่งซื้อได้ ลุงมุขส่งทางไปรษณีย์ หรือรถทัวร์ ไม่เกิน 2 วันได้กิน ลุงมุขบอกว่ารสชาติเหมือนกับกินที่เชียงคาน เพราะปาท่องโก๋ของลุงรับประกันอร่อยได้นานถึง 3 วัน ส่งให้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมามีลูกค้าเป็นเจ้าของโรงงานเคยสั่งไปเลี้ยงพนักงานมาแล้ว งานนี้ใครสนใจเปิดร้านปาท่องโก๋ยัดไส้ในกรุงเทพฯ ก็ไปเรียนกับลุงเขาได้ เพราะลุงมุขบอกว่าคงจะไม่ขยายสาขามาเปิดกรุงเทพฯ หรอก อยากให้คนกรุงเทพฯ ขึ้นไปกินที่เชียงคานมากกว่า โทร. 08-5743-5394 |
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต