จากประชาชาติธุรกิจ
วิธีดูแลรักษารถแบบง่ายๆ ในชีวิตประจำวันด้วยตัวคุณเอง ให้อยู่กับเราได้นาน นอกเหนือจากการนำเข้าศูนย์บริการตามระยะ ควรดูอะไรบ้าง
1.ลมยาง ดูว่ามันอ่อนหรือเปล่า ดูให้ครบทุกเส้น เพราะถ้าลมยางแต่ละล้อไม่เท่ากันจะมีผลต่อการทรงตัวของรถ
2.ตรวจดูรอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่างๆ ใต้ท้องรถ ก้มดูด้วยสายตาทำได้ง่ายๆ ถ้าพบว่ารั่วที่ล้อและเป็นน้ำมันเบรก จะต้องรีบปรึกษาช่าง และเมื่อตรวจพบว่าน้ำระบายความร้อนรั่วหยด ให้หาที่มาของการรั่ว ถ้าพบรอยรั่วของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์หรือน้ำมันเฟืองท้าย อย่านิ่งนอนใจ เมื่อมีเวลาควรนำไปปรึกษาช่าง
3.ดูแลน้ำระบายความร้อน เปิดฝาหม้อน้ำออกถ้าพบว่าน้ำพร่องน้อยลงไปก็ใช้น้ำสะอาดเติมลงไปให้เต็ม สำหรับรถบางคัน ลองสังเกตดูว่าถ้ามีขวดพลาสติกที่เก็บน้ำอยู่และมีท่อเล็กๆ ต่อไปถึงหม้อน้ำ ก็ไม่ต้องเปิดฝาหม้อน้ำ ให้ดูระดับน้ำที่ขวดเก็บน้ำสำรองแทน ถ้าน้ำยังอยู่ในระดับที่กำหนดก็ไม่ต้องเติม แต่ถ้าต่ำก็ให้เปิดฝาขวดเก็บน้ำสำรอง แล้วเติมน้ำสะอาดให้เต็ม
4.ตรวจเติมระดับน้ำมันเครื่อง ถ้าน้ำมันเครื่องพร่องหรือแห้งจะทำให้เกิดการสึกหรอภายในเครื่องยนต์ วิธีตรวจระดับน้ำมันเครื่อง เพียงดึงเหล็กวัดออกมาเช็ดทำความสะอาดแล้วใส่กดลงไปยังตำแหน่งของมันให้สุด จากนั้น ดึงออกมาตรงๆ ในแนวดิ่ง ระดับน้ำมันจะสังเกตได้จากรอยคราบน้ำมันที่เกาะอยู่ปลายเหล็กวัด น้ำมันจะต้องอยู่ระหว่างกลางขีดที่มีอักษร L (Low) และ F (Full) ถ้าต่ำจาก L ก็เติมให้อยู่ในระดับเท่าเดิมและไม่ควรเติมจนเกินอักษร F เพราะจะทำให้ควันขาวจากน้ำมันเครื่องเข้ามาห้องเผาไหม้และเพลาข้อเหวี่ยง รั่ว
5.ตรวจน้ำมันเบรกในกระบอกเก็บน้ำมันเบรกที่แม่ปั๊มเบรก ถ้ามีระดับสูงก็ไม่ต้องเติม แต่ถ้าพร่องต่ำกว่าขีดที่กำหนดให้เติมจนได้ระดับที่ถูกต้อง การเติมน้ำมันเบรกมีข้อควรระวังก็คือ อย่าให้น้ำมันเบรกหกราดโดนสีรถจะทำให้สีเสียหาย และถ้าหกห้ามเช็ด ให้ใช้น้ำราดให้เจือจาง เพราะจะทำให้สีเสียหายเป็นแผลทางยาวไปตลอดแนวที่เช็ด สำหรับน้ำมันเบรกนั้นถ้าพร่องมากๆ ทุกวัน จะต้องรีบนำรถไปปรึกษาช่าง
ที่มานสพ.มติชน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
