จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ สามัญสำนึก
นอกจากรัฐชุดนี้จะต้องเผชิญกับการทุจริต
โครงการรับจำนำข้าว ซึ่งกำลังได้รับการสอบสวนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว
ปรากฏ ปัจจุบันยังมีปัญหาผลปาล์มราคาตกต่ำแทรกซ้อนขึ้นมาอีก
โดยเกษตรกรชาวสวนปาล์มทั่วประเทศได้รวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหา หันมาดูแลชาวสวนปาล์มแบบเดียวกับชาวนาบ้าง
จาก สถานการณ์ราคาผลปาล์มทะลาย ณ ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อยู่ในระดับราคา กก.ละ 3.50 บาท ปัจจุบันราคาหล่นลงมาเหลือ กก.ละ 2.80-2.90 บาท
ที่สำคัญยังมีแนวโน้มที่ราคาจะตกลงไปมากกว่านี้อีก
ชาวสวนปาล์มได้เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดำเนินการใน 2 ข้อสำคัญ คือ
1) เข้ามาแทรกแซงราคาผลปาล์มให้เกษตรกรขายได้ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 5 บาท
หรือ 2) ขอให้ชดเชยส่วนต่างกรณีเกษตรกรขายผลปาล์มขาดทุน พร้อมกับขู่ว่า หากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ซึ่งมี "รองโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง ยังไม่ออกมาให้ความช่วยเหลือเกษตรกร มีสิทธิ์เจอ
"ม็อบปาล์ม" ถล่มรัฐบาลแน่
อย่างไรก็ตาม กรณีของปาล์มน้ำมันนี้ ดูผิวเผินแล้วเหมือนกับว่าชาวสวนปาล์มเรียกร้องราคาผลปาล์มทะลายสูงเกินไป คือต้องการ กก.ละ 5 บาท
ทว่าสภาพความเป็นจริงของผลผลิตในช่วงนี้ก็คือ
ผลปาล์มทะลายออกสู่ตลาดมาก
ซึ่งความจริงในข้อนี้ทั้งเกษตรกร-โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ-โรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์-กรมการค้าภายใน
หรือสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ใคร ๆ ก็รู้
แต่ที่เป็นปัญหาและกลายเป็นคำถามขึ้นมาก็คือ
ทำไมกรมการค้าภายในในฐานะหน่วยงานที่ดูแล
เรื่องการราคาจำหน่ายปาล์มทั้งระบบถึงไม่ใส่ใจ
ที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหามาตั้งแต่ต้นมือ
และนอกจากจะไม่ใส่ใจที่จะแก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน
ทั้งระบบแล้ว กลับทำให้สถานการณ์ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก
ยังจำได้หรือไม่ว่า ก่อนหน้าที่ราคาผลปาล์มจะตกต่ำ ชาวสวนปาล์ม/โรงสกัดเคยมีข้อเสนอแนะอย่างไร
1) ขอให้ยกเลิกการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียจำนวน 40,000 ตัน กับ 2) ขอให้ยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษในการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไป
ต่างประเทศ กก.ละ 10 บาท
เพียงเพราะว่า ที่กรมการค้าภายในเสนอตอนนั้น
ก็เพื่อจะ "กดดัน" โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบให้ลดราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มให้กับโรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์
เพื่อตรึงราคาน้ำมันปาล์มขวดไม่ให้ขายเกิน
ขวดละ 42 บาท หรือพูดง่าย ๆ ไม่ยอมให้น้ำมันปาล์มขวดปรับขึ้นราคาตามกลไกตลาด
กรมการ ค้าภายในเลือกที่จะอุ้มโรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ พร้อมกับผลักภาระเรื่องของราคาไปให้กับโรงสกัดน้ำมันปาล์มและเกษตรกรชาวสวน ปาล์ม
ผลของการอุ้มดังกล่าวเป็นอย่างไร
ความจริงที่ปรากฏออก มาก็คือ น้ำมันปาล์มในประเทศไม่ได้ขาด แต่ที่เป็นปัญหาตามมาก็คือ สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบภายในล้นเกินอยู่ถึง 300,000 ตัน
เพราะส่งออกมาตั้งแต่กลางปี 2555 ไม่ได้กลายเป็นตัวกดดันราคาผลปาล์มร่วงลงมาอย่างหนัก
ถามว่า เรื่องราวเป็นแบบนี้แล้ว กรมการค้าภายในจะรับผิดชอบผลพวงของนโยบายตัวเองอย่างไร
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต