จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เอเจนซี - รอยเตอร์อ้างนักวิเคราะห์แฉ บันทึกข้อความเข้าใจ(เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขายข้าวที่รัฐบาลไทยทำกับจีน เป็นเกมการเมืองมากกว่าโอกาสในการตัดลดสต๊อกข้าวกองพะเนินที่ยังคงค้างจำนวน มหาศาลและกำลังส่งผลให้ ไทย สูญเสียสถานะการเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ในตลาดข้าวโลก
ภายใต้บันทึกความเข้าใจที่ลงนามโดยนายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีจีน ระหว่างเยือนกรุงเทพฯเมื่อวันพุธ(21) ปักกิ่ง สามารถนำเข้าข้าวจากไทยหากมีความต้องการ อย่างไรก็ตามรอยเตอร์ระบุว่าความจริงคือยังไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับการขายข้าว ใดๆเลย
ข้อตกลงนี้มีขึ้นตามหลังการประชุมซัมมิทระดับภูมิภาคในกัมพูชา ที่ทั้งสองฝ่ายเดินทางไปเข้าร่วม ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างนักวิเคราะห์ระบุเห็นได้ชัดว่ามันเป็นความ พยายามของจีนที่ต้องการเอาใจรัฐบาลไทย
"รัฐบาลไทย ต้องการให้ผู้คนเชื่อว่ากำลังมีบางอย่างเกิดขึ้นและพวกเขาตะเกียกตะกายต้อง การให้การส่งออกเกิดขึ้นให้ได้" รอยเตอร์อ้างคำสัมภาษณ์ของเทรเดอร์รายหนึ่งในตลาดโภคภัณฑ์นานาชาติ ที่มีฐานอยู่ในสิงคโปร์ "เรารู้สึกเคลือบแคลงอย่างยิ่ง"
รอยเตอร์รายงานต่อว่าขณะที่รัฐบาลไทยตะเกียกตะกายพยายามโล๊ะสต๊อก ข้าวจำนวน 14 ตันสูงสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ แต่อีกด้านหนึ่งกลับจำเป็นต้องจัดหาสถานที่เป็นโกดังกักเก็บข้าวเพิ่มเติม หลังจากนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขยายกรอบเวลาโครงการอุดหนุนราคาข้าว รองรับฤดูกาลเก็บเกี่ยวใหม่ที่เริ่มต้นช่วงปลายเดือนตุลาคม โดยเป้าหมายของโครงการนี้คือกลุ่มชาวนาขนาดเล็กที่ช่วยกันลงคะแนนโหวตให้นาง สาวยิ่งลักษณ์ ได้รับเลือกเมื่อปีที่แล้ว
โครงการนี้ส่งผลให้ข้าวไทยมีราคาสูงกว่าคู่แข่งส่งออกสำคัญอย่าง เวียดนามและอินเดีย เกือบๆ 1 ใน 3 และคุกคามสถานะชาติผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก
เจ้าหน้าที่ไทยคนหนึ่งเผยว่าคณะรัฐมนตรีอนุมัติกรอบการขายข้าวแก่จีน สูงสุด 5 ล้านตันภายใน 3 ปี ขึ้นอยู่ว่า จีน ต้องการซื้อหรือไม่ นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ บอกว่า "เราจำเป็นต้องตกลงเรื่องราคาและคุณภาพกันอีกครั้ง หากว่าจีนต้องการซื้อ"
อย่างไรก็ตามเหล่าผู้ส่งออกมองว่าข้อตกลงไปทำกับจีนนั้น เป็นแค่ความพยายามสกัดแผนตำหนิติเตียนจากฝ่ายค้านในศึกอภิปรายในรัฐสภา เกี่ยวกับประเด็นนี้ที่แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของรัฐบาล "มันเป็นแค่ความเคลื่อนไหวทางการเมือง" เทรเดอร์คนหนึ่งในกรุงเทพฯบอกกับรอยเตอร์ "รัฐบาลไทยต้องการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถจัดการสต๊อกข้าวได้ แม้ว่าพวกเขายังไม่สามารถขายข้าวผ่านข้อตกลงใดๆของรัฐได้เลย"
แม้ดูเหมือนว่า รัฐบาลจะสามารถะเอาตัวรอดจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ สืบเนื่องจากมีเสียงข้างมากในรัฐสภา แต่ฝ่ายค้านก็คาดหมายว่าจะสร้างความเสียหายแก่รัฐบาลด้วยข้อกล่าวหาต่างๆ นานาเกี่ยวกับการคอรัปชันและสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะศึกอภิปรายครั้งนี้มีการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของไทยเคยออกมาคุยว่าได้ขายข้าวแก่ผู้ซื้อ สำคัญๆไปหลายราย แต่เหล่าผู้นำเข้าเหล่านั้นล้วนแต่ออกมาปฏิเสธ ขณะเดียวกันก็พบข้อมูลว่ารัฐบาลไทยขายข้าวได้เพียงกองเล็กๆ อาทิแก่ไอวอรี โคสต์ จำนวน 240,000 ตัน ขณะที่ผลของการเสนอขาย 586,000 ตัน ยังไม่มีถ้อยแถลงถึงความคืบหน้า
ในเดือนกันยายน บุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อ้างว่าไทยได้ลงนาในสัญญาขายข้าว 7.3 ล้านตัน แก่ชาติต่างๆ ทว่า อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ สองประเทศที่ถูกพาดพิงก็ออกมาปฏิเสธในทันที
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต